เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นายโม คำคูน เครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก พร้อมชาวบ้าน ต.ชมพู จำนวน 13 คน เดินทางมาทวงถามความยุติธรรมคดียิงแกนนำนักอนุรักษ์ต่อต้านโรงโม่หิน นายพิทักษ์ โตนวุธ ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2544 ซึ่งทุกปีในวันครบรอบการเสียชีวิต เครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมภูจะเดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดีกับผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก สำหรับปีนี้ โดยวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วคดีจะหมดอายุความ
แกนนำเครือข่ายบอนุรักษ์ลุ่มน้ำชมภูได้ยื่นหนังสือต่อ ผวจ.พิษณุโลก มีนายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง ปลัดจังหวัดพิษณุโลก เป็นตัวแทนมารับหนังสือ พร้อมด้วย พ.ต.ท.เจริญ พิทักษ์นิติวุฒิ รอง ผกก.สภ.เนินมะปราง และ นายอุดม สอนจิตติ์ อุตสาหกรรมจังหวัดพิษณุโลก มารับเรื่องจากเครือข่ายอนุรักษ์ฯ
ต่อมา เครือข่ายได้อ่านจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี ใจความสรุปว่า กรณีการสังหารนายพิทักษ์ โตนวุธ ที่ปรึกษาเครือข่ายอนุรักษ์ ในการเป็นแกนนำคัดค้านโรงโม่หินในบ้านชมภูจนเสียชีวิตเมื่อ 17 พฤษภาคม 2564 จากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลา 20 ปีพอดี
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางเครือข่ายอนุรักษ์ฯได้ติดตามผลการดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาโดยตลอด แต่กลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ เราต้องการให้ผู้รับผิดชอบคดีออกมาชี้แจง ทำไมยังจับกุมคนร้ายไม่ได้
พร้อมกับเรียกร้องให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการดังต่อไปนี้ 1.ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปศึกษาข้อกฎหมาย เพื่อหาแนวทางในการรื้อคดีกลับมาใหม่โดยเร่งด่วน และ 2.ผลการดำเนินการเพิกถอนประกาศแหล่งอุตสาหกรรมจังหวัดพิษณุโลก
ด้าน พ.ต.ท.เจริญ รอง ผกก.สภ.เนินมะปราง เปิดเผยว่า คดีการสังหารนายพิทักษ์ โตนวุธ เกิดขึ้นเมื่อปี 2544 ก่อนหน้าทางเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องที่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และคนชี้เป้า มีการดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย ส่งฟ้องศาล แต่ปรากฏว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้ยกฟ้องไปแล้ว ขณะนี้เหลือเพียงมือปืนชื่อ นายสุริยะ ขุนอุดร ตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ จ 64/2545 ทางเจ้าหน้าที่ได้ขึ้นบัญชีมือปืนรายนี้เอาไว้แล้วตามปฏิทินหมายจับทั่วประเทศ และยังคงติดตามหาข้อมูล เพื่อทำการจับกุมตลอดเวลา แต่คนร้ายไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งทะเบียนบ้าน การเข้ารักษาพยาบาล ไม่ต่ออายุบัตรประชาชน ใบขับขี่ รวมถึงติดตามทางเฟซบุ๊กของกลุ่มผู้ใกล้ชิดมาตลอด แต่ไม่มีเบาะแสใดๆ
พ.ต.ท.เจริญกล่าวว่า ส่วนการรื้อคดีความนั้น ตามกฎหมายอาญาไม่สามารถทำได้เมื่อคดีหมดอายุความ ซึ่งคดีนายพิทักษ์ โตนวุธ จะหมดอายุความในเที่ยงคืนวันนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากหน่วยงานราชการได้ชี้แจงให้เครือข่ายอนุรักษ์ฯทราบถึงคดีและการไม่ได้ดำเนินการประกาศแหล่งอุตสาหกรรมแล้ว เครือข่ายอนุรักษ์ต่างผิดหวังที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ จากนั้นเครือข่ายอนุรักษ์ได้ดำเนินการกลับภูมิลำเนา ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่มาเรียกร้องในการติดตามจับกุมคนร้าย เพราะต่างคาดว่าคดีหมดอายุความและเจ้าหน้าที่คงไม่สามารถตามจับคนร้ายได้ในเที่ยงคืนวันนี้
ที่มา MATICHON