สยามพิวรรธน์ ผนึก ธนาคารกรุงไทย สนับสนุนผู้ประกอบการ SME เข้าถึงเงินทุนเสริมสภาพคล่องฝ่าวิกฤติโควิด-19 และพันธมิตรทางธุรกิจทุกกลุ่ม

เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 64 ชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพฯ กล่าวว่า จากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงและส่งผลกระทบในวงกว้างต่อทุกภาคส่วน รวมถึงคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ ที่สยามพิวรรธน์ให้ความสำคัญสูงสุด

ทั้งนี้ ตลอดเวลา 14 เดือนที่ผ่านมาเราจึงจัดมาตรการให้ความช่วยเหลือหลายรูปแบบอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่การเพิ่มช่องทางการขายให้ร้านค้าผ่านบริการ Call & Shop, Siam Paragon Luxury Chat & Shop, Click & Shop และ Ultimate Chat & Shop รวมถึงธุรกิจประเภทอาหารโดยร่วมมือกับทางแอปพลิเคชัน True Food เพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายครบรูปแบบออมนิแชนแนล (Omni-Channel)

ปัจจุบัน สยามพิวรรธน์มีจำนวนคู่ค้ากว่า 5,000 ราย สยามพิวรรธน์มีบทพิสูจน์แล้วในวิกฤตการณ์หลายเรื่องที่เราเผชิญมา เราได้ช่วยเหลือผู้เช่าร้านค้า และพันธมิตรทางธุรกิจที่ได้รับผลกระทบในทุกวิถีทาง รวมถึงการให้ส่วนลดค่าเช่าค่าบริการ ซึ่งทำให้ทุกคนสามารถผ่านพ้นมาได้ด้วยกันเสมอ สำหรับวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในครั้งนี้ที่ยืดเยื้อต่อเนื่องมามากกว่า 1 ปี

ทั้งนี้ เราจึงจัดมาตรการพิเศษเรื่องสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในขณะนี้ของทุกคน โดยได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่คู่ค้า และพันธมิตรของเราให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง เป็นการประคับประคองบรรดาร้านค้าในศูนย์การค้าของกลุ่มสยามพิวรรธน์ให้ได้รับการช่วยเหลือที่เหมาะสมเพื่อให้ฝ่าฟันวิกฤติครั้งนี้ไปได้ สยามพิวรรธน์ตระหนักในคุณค่าของความสัมพันธ์ที่มีกับคู่ค้าของเราตลอดเวลาอันยาวนาน และเราจะอยู่เคียงข้างเพื่อสนับสนุนคู่ค้าของเราอย่างดีที่สุดเสมอ

ทางด้าน ผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มลูกค้าบุคคล ผู้ประกอบการ SME และลูกค้าธุรกิจ ด้วยมาตรการช่วยเหลือลูกค้า ทั้งมาตรการความช่วยเหลือทั่วไป และมาตรการความช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม เพื่อให้สามารถช่วยเหลือได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ ธนาคารยังให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือคู่ค้า และพันธมิตรของลูกค้าตลอดจนห่วงโซ่ธุรกิจ ตามยุทธศาสตร์ X2G2X

ล่าสุดได้ร่วมมือกับสยามพิวรรธน์ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ที่เป็นคู่ค้าและพันธมิตรของสยามพิวรรธน์ ให้เข้าถึงสภาพคล่อง ผ่าน 2 มาตรการ ดังนี้

1. สินเชื่อฟื้นฟู วงเงินกู้ระยะยาวอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 2% ต่อปีในช่วง 2 ปีแรก (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 5 ปี ไม่เกิน 5% ต่อปี) ระยะเวลาผ่อนชําระสูงสุดไม่เกิน 10 ปี และยังได้รับยกเว้นดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรก นับแต่วันเบิกเงินกู้งวดแรก (ในปีที่ 5-10 ธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยตามความเสี่ยงของลูกหนี้) นอกจากนี้ ยังได้รับการค้ำประกันสินเชื่อจากบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. นานสูงสุด 10 ปี และมีหลักประกันอื่นขั้นต่ำตามที่ธนาคารกำหนด

– สำหรับลูกค้าสินเชื่อธุรกิจรายเดิมของธนาคารกรุงไทยที่มีวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท ณ 28 กุมภาพันธ์ 2564 สามารถขอสินเชื่อฟื้นฟู ไม่เกิน 30% ของวงเงินเดิมที่มีอยู่กับธนาคาร ณ 31 ธันวาคม 2562 หรือ ณ 28 กุมภาพันธ์ 2564 แล้วแต่จํานวนใดจะสูงกว่า แต่ไม่เกิน 150 ล้านบาท โดยหักลบกับวงเงิน Soft Loan อื่นๆ ที่มีอยู่แล้ว

– สำหรับลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยมีวงเงินสินเชื่อธุรกิจกับทุกสถาบันการเงิน ก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2564 สามารถขอกู้ได้ไม่เกิน 20 ล้านบาท นับรวมวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินทุกแห่ง

2. สินเชื่อประเภทเงินทุนหมุนเวียนสำหรับคู่ค้าของสยามพิวรรธน์

วงเงินกู้เบิกเกินบัญชีที่ให้วงเงินตามธุรกรรมการค้า อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ใช้หลักประกันต่ำ สามารถโอนชำระเงินให้คู่ค้าผ่านช่องทางที่หลากหลาย ด้วยอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น MRR สามารถกู้ได้สูงสุด 20 ล้านบาท โดยเงื่อนไขสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันวงเงินเริ่มต้น 1 ล้านบาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดธุรกิจและความต้องการใช้วงเงินของคู่ค้า ในกรณีที่วงเงินที่ต้องการใช้จริงสูงกว่าวงเงินแบบไม่มีหลักประกัน สามารถใช้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. ค้ำประกันร่วมกับหลักประกันอื่นได้

โดยสยามพิวรรธน์จะอำนวยความสะดวกกับลูกค้าและคู่ค้าให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อ เพื่อเสริมสภาพคล่องในต้นทุนที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจให้กับลูกค้าและตอบโจทย์ทางการเงินได้รอบด้านครบทั้งวงจรธุรกิจ (Supply Chain Financing) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับความช่วยเหลือดังกล่าว เป็นการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ที่เป็นคู่ค้าและพันธมิตรของสยามพิวรรธน์ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด COVID-19 โดยเงื่อนไขการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ คุณสมบัติของลูกค้าที่เข้าร่วม เป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาของธนาคาร ตามความเหมาะสมแล้วแต่กรณี

อย่างไรก็ตาม สยามพิวรรธน์คำนึงถึงคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งเป็นภาคส่วนที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทยและเป็นกลุ่มคู่ค้าที่สยามพิวรรธน์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก จึงได้มีมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการมาอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรเทาผลกระทบและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของคู่ค้า สยามพิวรรธน์พร้อมจะยืนหยัดเคียงข้างและจับมือคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจก้าวข้ามวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน