พร้อมแล้ว! เปิดชิงมงกุฎ นางสาวไทย 2565 เฟ้นหาผู้ทำประโยชน์ เป็นกระบอกเสียงให้สังคม ภายใต้แนวคิด “Revival of the Original” หรือ “กำเนิดใหม่ไปด้วยกัน”
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2564 บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด (TPN GLOBAL) ผู้นำด้านการจัดประกวดนางงามระดับประเทศ ร่วมกับสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานแถลงข่าวการจัดการประกวด นางสาวไทย ประจำปี 2565 เผยรายละเอียดการพลิกโฉมเวที “นางสาวไทย” สู่ยุคสมัยใหม่ เพื่อเฟ้นหาสาวไทยคนที่ 53 ที่จะเป็นทูตการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม รวมถึงเป็นกระบอกเสียงด้านการศึกษา สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “Revival of the Original” หรือ “กำเนิดใหม่ไปด้วยกัน”
เปิดม่านอีกครั้งสำหรับเวทีการประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2565 ที่จะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 2564 นี้ ไปจนถึงเดือน ก.พ. 2565 ภายใต้การบริหารงานของบริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด ผู้รับไม้ต่อล่าสุดในการจัดการประกวด “นางสาวไทย” หนึ่งในเวทีประชันสาวงามสุดยิ่งใหญ่แห่งปีของประเทศไทย
โดยในปีนี้เวที “นางสาวไทย” จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการนางงามในประเทศไทยอีกครั้ง ด้วยการก้าวเข้าสู่มิติใหม่ของการเฟ้นหาสาวงามที่มีคุณค่าสมบูรณ์แบบทุกองศาในสไตล์ผู้หญิงยุคใหม่ที่สวยสง่า ทรงพลัง และเฉลียวฉลาด (Sweet Strong Smart) สื่อถึงแนวคิด “Revival of the Original” หรือ “กำเนิดใหม่ไปด้วยกัน” ซึ่งเป็นธีมหลักการประชันความงามของนางสาวไทยปีนี้
ปิยาภรณ์ แสนโกศิก ผู้บริหาร บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด กล่าวว่า เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติเป็นผู้จัดการประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2565
ซึ่งเป็นเวทีการประกวดนางงามสัญชาติไทยแท้และมีมาอย่างยาวนาน ในมุมมองของ TPN GLOBAL เราจะนำความเชี่ยวชาญของเราพลิกโฉมเวทีการประกวดนางสาวไทยในปีนี้ให้สามารถเทียบเท่าระดับโลก เพราะเรามองเห็นถึงศักยภาพของสาวไทยที่สามารถเป็นตัวแทนหญิงไทยยุคใหม่ที่แท้จริง
ปิยาภรณ์ กล่าวต่อว่า หญิงไทยภายใต้ความอ่อนหวาน แต่แข็งแกร่งมาก (Sweet but Strong) เฉกเช่นวีรสตรีไทยมากมายในประวัติศาสตร์ เป็นที่มาของคอนเซ็ปต์การประกวดปีนี้คือ “Revival of the Original กำเนิดใหม่ ไปด้วยกัน” เราพร้อมที่เฟ้นหานางสาวไทยคนที่ 53 ที่จะขึ้นมารับตำแหน่งเพื่อทำประโยชน์ให้กับประเทศไทย
โดยเฉพาะเป็นกระบอกเสียงผลักดันด้านการศึกษา ซึ่งเป็นสิ่งที่สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ให้ความสำคัญ รวมถึงเป็นทูตการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม เผยแพร่อัตลักษณ์วัฒนธรรมไทย วัฒนธรรมอาหารท้องถิ่น
รวมถึงเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจของประเทศไทยในมุมมองใหม่ให้ปรากฏแก่ทั่วโลก ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าต่อไปอีกด้วย
การประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2565 ยังได้โค้ชผู้เชี่ยวชาญและผู้คร่ำหวอดในวงการนางงามที่จะมาช่วยกันเฟ้นหาและเจียระไนเพชรเม็ดงาม ได้แก่ คุณริสา หงษ์หิรัญ, ดร.พงษ์รพี บูรณสมภพ, คุณฐิติพงษ์ ด้วงคง, อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2020, และปุณิกา กุลสุนทรรัตน์ รองอันดับ 2 มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2020
โดยนางสาวไทยคนที่ 53 จะต้องสวยเก๋ มีเสน่ห์ (แต่ไม่จำกัดส่วนสูง) มีเชาว์ปัญญา มีความมั่นใจ รักนวัตกรรม และความเป็นไทย สามารถเป็นตัวแทนหญิงไทยแห่งยุคสมัยใหม่ในฐานะภูมิปัญญาแห่งอนาคต เป็นกระบอกเสียงให้กับสังคม ส่งเสริม และยกระดับการศึกษาให้คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผ่านการมุ่งเน้นการทำสาธารณกุศลต่างๆ สนับสนุนทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ด้อยโอกาสทางศึกษา รวมถึงเป็นทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอีกด้วย
ด้าน พล.ต.ท.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร นายกสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า “นางสาวไทยประจำปี 2565 นี้ มีมุมมองที่คงความเป็นเอกลักษณ์ไทย ทันสมัยอย่างเป็นสากล แสดงให้เห็นถึงความเป็นไทย คือเป็นผู้ที่มีความสวยงามทางร่างกาย และมีจิตใจงดงาม ทั้งกิริยามารยาท คงความเป็นกุลสตรีไทย มีความทันสมัยอย่างเป็นสากล สามารถปรับและพัฒนาตนให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และสภาพแวดล้อมของโลก โดยสรุปคือ งามกายงามใจ มีจิตใจที่เอื้ออารีต่อตนเองครอบครัว ชาติบ้านเมืองและสังคมในทุกระดับ”
ที่มา khaosod