เมื่อวันที่ 17 พ.ค. เว็บไซต์ข่าว BBC รายงานว่า องค์กรเครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (The Asian Network for Free Elections) คณะสังเกตการณ์อิสระที่เข้าไปสอดส่องการเลือกตั้งทั่วไปของเมียนมา เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2563 เปิดเผยรายงานที่ระบุว่า ไม่พบหลักฐานตามที่มีการกล้าวอ้างว่ามีการทุจริตฉ้อฉลในการเลือกตั้งเมียนมา
การออกมาเปิดเผยในครั้งนี้ มีขึ้น 3 เดือนหลังจากที่กองทัพเมียนมา นำโดยพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ได้ก่อรัฐประหารยึดอำนาจมาจากรัฐบาลของ นางออง ซาน ซูจี เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา โดยอ้างว่ามีการโกงเลือกตั้ง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยหลักฐานใดๆ ออกมา
รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นจากการรวมรวมข้อมูลการสังเกตการณ์หน่วยเลือกตั้งกว่า 400 แห่งทั่วเมียนมา พบว่า ผลคะแนนที่ออกมาเป็นตัวเลขที่มีความคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อย เนื่องมาจากการผลกระทบของการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และมาจากความขัดแย้งในพื้นที่ในเวลานั้น และแม้ว่าจะไม่ได้เสรีและยุติธรรมเท่ากับการเลือกตั้งเมื่อปี 2558 แต่ผลการเลือกตั้งที่ออกมาเป็นไปตามอำนาจ และเป็นเจตจำนงอย่างกว้างขวางของประชาชนชาวเมียนมา ซึ่งสรุปได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนั้นทำให้สถานการณ์ประชาธิปไตยเมียนมามีความคืบหน้าไปอีกขั้น
รายงานระบุว่า แม้จะเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ชาวเมียนมาออกมาใช้สิทธิลงคะแนนกันถึง 27.5 ล้านคน เป็นผลมาจากความทุ่มเทของเจ้าหน้าที่การเลือกตั้ง และเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข
ขณะที่ระบุว่า การตัดสินใจของกองทัพในการเพิกเฉยต่อผลเลือกตั้งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครออกมาโต้แย้ง อย่างไรก็ตาม ทางกองทัพเมียนมายังไม่ได้ออกมาตอบโต้เกี่ยวกับรายงานฉบับนี้
ทั้งนี้การเลือกตั้งทั่วไปของเมียนมาที่มีขึ้นที่ผ่านมา พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ของนางซูจี ชนะไปอย่างถล่มทลาย ก่อนที่จะถูกรัฐประหาร นางซูจี และบรรดารัฐมนตรี และส.ส.อื่นๆ ถูกจับกุมตัวในช่วงเช้ามืดของวันที่ 1 ก.พ. และกองทัพเมียนมาประกาศว่าจะจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 2 ปี.