“วิษณุ” ยังไม่ทราบ มีคนตั้งข้อสังเกตต้องเอาผิดพลังประชารัฐ-กกต. กรณีศาลวินิจฉัย “สิระ” พ้น ส.ส. เผย เห็นด้วยเรียกคืนเงินเดือนและรายได้ทั้งหมด เพราะขาดคุณสมบัติแต่สมัคร

เมื่อเวลา 09.25 น. วันที่ 23 ธ.ค. 2564 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยว่า นายสิระ เจนจาคะ สิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส.กทม. เขตหลักสี่ พรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากขาดคุณสมบัติการรับสมัครเป็น ส.ส. ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐในตอนนั้น ต้องถูกดำเนินการด้วย ว่าคดีของ นายสิระ ถือเป็นผู้เคยต้องพิพากษาถึงที่สุดในคดีฉ้อโกง ส่วนผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐต้องรับผิดชอบหรือไม่นั้น ตอบไม่ถูก อีกสักพักหนึ่งก็คงเข้าใจชัดเจน แต่ตอนนี้ยังตอบไม่ถูกว่าในตอนนั้นผู้บริหารของพรรคประชารัฐทราบเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับ นายสิระ มากน้อยแค่ไหน

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปถึงกรณีที่บางฝ่ายมองว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อาจต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยเนื่องจากเป็นผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องรอดูความชัดเจน ช่วงการรับสมัครและตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ส. การตรวจสอบประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่

ส่วนคำถามว่าหากจะมีผู้ไปยื่นร้องเอาผิดกับ กกต. และผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐในขณะนั้นจะสามารถทำได้หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า ไม่ทราบเหมือนกัน เท่าที่ได้ยินเบื้องต้นมีคนบอกว่าทำได้ แต่ส่วนตัวไม่แน่ใจ เมื่อถามว่ามีข้อกฎหมายใดที่มีส่วนปกป้อง กกต. ในเรื่องนี้หรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า ไม่ กกต. มีหน้าที่ต้องตรวจสอบผู้สมัคร แต่บางครั้งก็อาจจะตรวจสอบไม่ได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร

จากนั้นผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวที่สภาผู้แทนราษฎร จะเรียกเงินเดือนและรายได้ทั้งหมดคืนจาก นายสิระ นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เพราะขาดคุณสมบัติตั้งแต่วันที่มาสมัครเลือกตั้ง ไม่ใช่มาขาดคุณสมบัติหลังจากเป็น ส.ส. แล้ว ขณะที่คำถามต่อไปว่าบรรดาการกระทำต่างๆ ของ นายสิระ ในฐานะประธานกรรมาธิการในสภาฯ จะถือเป็นโมฆะหรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า ไม่มีผล สิ่งที่ นายสิระ เคยทำไว้ในฐานะกรรมาธิการก็ยังคงอยู่.

ที่มา thairath