สาวพลาด หลงเชื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเหยื่อพัวพันคดีฟอกเงิน โอนเงินกว่าหมื่นบาท ฝากเป็นอุทาหรณ์ ด้านตำรวจเตรียมสืบสวนดำเนินคดี

วันที่ 23 ธ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่ค้าในตลาดสดเทศบาลพรานกระต่าย หลงเชื่อมิจฉาชีพ โดยมีโทรศัพท์มาหลอกว่าพัวพันกับการฟอกเงิน และให้รีบโอนเงินเคลียร์บัญชีผ่านคนที่อ้างว่าเป็นตำรวจ จนหลงโอนเงินไปหมื่นกว่าบาท รู้ตัวโดนหลอกจึงรีบเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นางสาวนิสารัตน์ อายุ 32 ปี กล่าวว่า ตนถูกมิจฉาชีพใช้กลอุบายหลอกลวงให้โอนเงินเข้าบัญชีคนร้าย โดยสูญเงินไป 10,800 บาท ซึ่งคนร้ายใช้วิธีการโทรศัพท์เข้ามาโดยอ้างว่า โทรมาจากบริษัทขนส่งDHL สาขาแหลมฉบัง (จังหวัดชลบุรี) โดยพัสดุที่ตนส่งออกนอกประเทศตั้งแต่วันที่ 7 ธ.คง ที่ผ่านมานั้น ติดอยู่ที่ด่านศุลกากร ให้ตนไปเคลียร์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากพัสดุด้านในประกอบไปด้วยพาสปอร์ต, บัตรATM และสมุดบัญชีหลายเล่ม ซุกซ่อนอยู่ในเสื้อผ้าภายในกล่องพัสดุ

หลงเชื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์

แต่ตนปฏิเสธแล้วว่าไม่ได้มีการส่งพัสดุในช่วงที่ผ่านมาแต่อย่างใด และต่อมาพนักงานบริษัทขนส่งได้โอนสายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าชื่อ พ.ต.อ.จิราวัฒน์ ศักดิ์ศรีวัฒนา ตำแหน่งผู้กำกับ สภ.แหลมฉบัง โดยตำรวจคนดังกล่าวอ้างว่า ตนมีส่วนพัวพันกับคดีฟอกเงิน ซึ่งได้รับการซักทอดจากผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ก่อนหน้านี้ และมีหลักฐานคือสมุดบัญชีของตน จากนั้นได้พูดจาหว่านล้อมให้ตนบอกข้อมูลส่วนตัว

ทั้งเลขบัตรประจำตัวประชาชนและเลขสมุดบัญชีธนาคารต่าง ๆ ที่มีด้วย อ้างว่าจะนำเรื่องส่งไปให้ดีเอสไอตรวจสอบ จากนั้นได้ให้ตนเองโอนเงินออกจากทุกบัญชีเพื่อเซ็ตยอดเงินให้เป็น 0 บาท โดยโอนเข้าบัญชีของผู้ดูแลคดีไว้ก่อน หลังตรวจสอบแล้วจะได้มีการโอนเงินคืนกลับมา ตนจึงหลงเชื่อและโอนเงินไปดังกล่าว

ขณะเดียวกัน เพื่อนของตนที่ขายของเข้ามาสอบถามตน ตนจึงได้เล่าเรื่องราวให้เพื่อนฟัง จึงรู้ตัวว่าถูกหลอกเข้าแล้ว จากนั้นได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.พรานกระต่าย

ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพรานกระต่าย

ด้าน พ.ต.อ.ภานุวัฒน์ ภูจอมเพชร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพรานกระต่าย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบเรื่องราวดังกล่าว และได้นัดสอบปากคำผู้เสียหายแล้ว จากนั้นจะให้ชุดสืบสวนเร่งสืบพยานหลักฐานที่ได้มาจากผู้เสียหาย เพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งที่ผ่านมามักจะมีผู้ถูกหลอกให้โอนเงินในลักษณะดังกล่าวอยู่บ่อยครั้งในพื้นที่ต่าง ๆ

แต่คราวนี้มาเกิดในพื้นที่อำเภอพรานกระต่าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายอย่างเต็มที่ ที่สำคัญนายตำรวจที่ถูกนำชื่อมาแอบอ้างนั้นเป็นคนละคนกับผู้ที่อ้างว่าเป็นตำรวจและพูดคุยกับผู้เสียหาย เนื่อองจากนายตำรวจที่นำมาแอบอ้างเป็นนายตำรวจเพื่อนกันกับตน จึงยืนยันได้เลยว่าคนละคนกับที่โทรหาผู้เสียหายและเป็นขบวนการหลอกลวงต้มตุ๋นประชาชนแน่นอนชัดเจน

อยากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังขบวนการมิจฉาชีพ ซึ่งมักจะมีการหลอกลวงให้โอนเงินในหลายรูปแบบ โดยหากประชาชนได้รับโทรศัพท์ในลักษณะนี้ สามารถเข้ามาตรวจสอบได้ที่สถานีตำรวจ เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อและสูญเสียทรัพย์สิน และทางสถานีตำรวจภูธรพรานกระต่าย จะได้มีการลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนระมัดระวังตัวไม่ให้ตกเป็นเหยื่อแก๊งเหล่านี้ด้วย

ที่มา khaosod.