กรมวิทย์ฯ เผยตรวจเจอ ‘โอมิครอน’ 740 ราย กระจาย 33 จังหวัด กทม.สูงสุด มาจากต่างประเทศ 489 ราย ติดเชื้อในประเทศ 251 ราย 19 จังหวัด คลัสเตอร์กาฬสินธุ์ลามหนัก

วันที่ 29 ธ.ค.64 นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงสถานการณ์โควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน ว่า ขณะนี้พบสายพันธุ์โอมิครอนแล้ว 108 ประเทศ โดยสหรัฐอเมริกาตรวจพบทุกรัฐ ทำให้ติดเชื้อพุ่งขึ้น 2 แสนรายต่อวัน สำหรับสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนยังพบ 3 สายพันธุ์ ส่วนใหญ่ยังเป็น BA.1 ประมาณ 4.4 หมื่นราย

โอมิครอน 740 ราย

ส่วนประเทศไทยตั้งแต่เปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 มีการตรวจสายพันธุ์มาตลอด ภาพรวมเราตรวจประมาณ 8 พันกว่าตัวอย่าง พบสายพันธุ์โอมิครอนสะสม 740 ราย คิดเป็น 8-9% พบเกือบทุกเขตสุขภาพ ยกเว้นเขตสุขภาพที่ 2 คือ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ สุโขทัย และตาก

โดยพื้นที่ที่ตรวจพบมากที่สุดคือ กทม. เนื่องจากเราตรวจผู้เดินทางจากต่างประเทศจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระบบ Test&Go และรอผลตรวจจากสถานพยาบาลใน กทม. รองลงมา คือ เขตสุขภาพที่ 7 ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ที่มีคลัสเตอร์ใหญ่ และเขตสุขภาพที่ 11 ภาคใต้ฝั่งอันดามัน เช่น ภูเก็ต สมุย

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา คือวันที่ 27-28 ธ.ค. 2564 การตรวจสายพันธุ์รวมทุกกลุ่มทั้งจากในประเทศและเดินทางมาจากต่างประเทศ พบว่า สัดส่วนของสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มขึ้นค่อนข้างเร็วขณะนี้เป็น 66.5%

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้แปลว่าวันนี้เรามีโอมิครอนแล้ว 66% เนื่องจากตัวอย่างที่สุ่มตรวจ ส่วนใหญ่เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งทั่วโลกมีการติดเชื้อโอมิครอนมาก การตรวจพบสัดส่วนของโอมิครอนจากคนที่มาจากต่างประเทศจึงมากไปด้วย รวมถึงการตรวจผู้ที่มีประวัติสัมผัสคนกลับมาจากต่างประเทศ

อย่าง คลัสเตอร์กาฬสินธุ์ จึงมีโอกาสเป็นโอมิครอนสูงมากกว่า หากคิดเฉพาะการตรวจในผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะระบบ Test&Go Sandbox หรือกักตัว เราเจอคนเป็นโอมิครอนสัดส่วนถึง 75% ถือว่าเยอะขึ้น จึงต้องจับตากลุ่มนี้เป็นพิเศษ แม้ตรวจ RT-PCR วันแรกที่มาถึงประเทศไทยจะเป็นลบก็ตาม ต้องติดตามต่อและกำหนดตรวจซ้ำช่วงวันที่ 5-6 เพื่อให้ได้ข้อมูลมากขึ้น

เพราะฉะนั้น 2 วันที่ผ่านมา เราตรวจพบโอมิครอน 200 กว่าราย ขณะที่ผู้ป่วยภาพรวมทั่วประเทศช่วง 2 วันที่ผ่านมา มีประมาณ 5 พันราย ก็คิดเป็นประมาณ 5-6% ดังนั้น พื้นที่ประเทศไทยส่วนใหญ่ยังเป็นเดลต้าอยู่” นพ.ศุภกิจกล่าว

เจอแล้ว 33 จังหวัด

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ส่วนเจอโอมิครอนที่ไหนบ้าง เมื่อเจอโอมิครอนจะแจ้งผู้ส่งตัวอย่างไปควบคุมสอบสวนโรค หาผู้สัมผัสเสี่ยงเอามาตรวจ ขณะนี้พบ 33 จังหวัดที่มีการตรวจพบโอมิครอน ส่วนใหญ่ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ ส่วนที่มีการติดเชื้อในประเทศมี 19 จังหวัด ยังเกี่ยวโยงกับผู้เดินทางเข้าประเทศ

คลัสเตอร์ใหญ่ที่สุดคือกาฬสินธุ์ที่มี 200 กว่าราย กระจายหลายจังหวัด ภาพรวมติดเชื้อโอมิครอน 740 ราย มาจากต่างประเทศ 489 ราย และติดเชื้อภายในประเทศ 251 ราย ทั้งนี้ ตรวจยืนยันด้วยการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัวแล้ว 104 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตรวจพบโอมิครอนจากการติดเชื้อในประเทศมี 19 จังหวัด ดังนี้ เขตสุขภาพที่ 1 เชียงใหม่ 1 ราย มีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อโอมิครอน และลำพูน 4 ราย สัมผัสคลัสเตอร์กาฬสินธุ์ , เขตสุขภาพที่ 7 กาฬสินธุ์ 119 ราย ขอนแก่น 12 ราย มหาสารคาม 42 ราย และร้อยเอ็ด 50 ราย เป็นพนักงานเสิร์ฟ และคนที่มารับประทานอาหารสถานที่เดียวกันกับผู้ติดเชื้อที่กลับจากเบลเยียม และสัมผัสเคสยืนยัน คลัสเตอร์กาฬสินธุ์

เขตสุขภาพที่ 8 อุดรธานี 3 ราย สัมผัสผู้ติดเชื้อโอมิครอนที่เดินทางกลับจากเบลเยี่ยม เลย 2 ราย สัมผัสเคส กทม. หนองคาย 2 ราย สัมผัสเคสยืนยัน และหนองบัวลำภู 1 ราย สัมผัสเคสยืนยันคลัสเตอร์กาฬสินธุ์

เขตสุขภาพที่ 9 สุรินทร์ 1 ราย สัมผัสผู้ติดเชื้อโอมิครอนที่เดินทางกลับจากเดนมาร์ก และชัยภูมิ 1 ราย เดินทางไปพื้นที่เสี่ยง จ.ชลบุรี และกาฬสินธุ์ เขตสุขภาพที่ 10 อุบลราชธานี 3 ราย กลับจากพื้นที่เสี่ยงไปสังสรรค์ร้านดื่มกลางคืน มุกดาหาร 1 ราย กลับจากพื้นที่เสี่ยงไปสังสรรค์ร้านดื่มกลางคืน และยโสธร 1 ราย สัมผัสคลัสเตอร์กาฬสินธุ์

เขตสุขภาพที่ 11 ภูเก็ต 2 ราย กระบี่ 1 ราย ประวัติ HRC สัมผัสผู้ติดเชื้อโอมิครอน เขตสุขภาพที่ 12 ปัตตานี 3 ราย สัมผัสผู้ติดเชื้อเดินทางมาจากการแสวงบุญ ซาอุดิอาระเบีย และเขตสุขภาพที่ 13 กทม. 2 ราย สัมผัสผู้ติดเชื้อที่เป็นสามีนักบินมาจากไนจีเรีย และเจ้าหน้าที่รัฐเดินทางไปประชุมหลายจังหวัด

ที่มา khaosod