สลด! รถไฟจะมา หนุ่มขี่จยย.ก้มตัวหมอบหวังฝ่าเหล็กกั้น แต่ไม่พ้น คอหักดับคาที่

สลด! รถไฟกำลังจะมา หนุ่มนิรนามบิดจยย.มาด้วยความเร็ว ก้มตัวหมอบหวังฝ่าเหล็กกั้นทางรถไฟถนนเลี่ยงเมืองอุดรธานี-สกลนคร แต่ไม่พ้น ชนคอหักดับคาที่

เมื่อวันที่ 2 ม.ค.65 ร.ต.อ.แทน นุ่มเจริญ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์ชนแผงเหล็กกั้นรถไฟ บริเวณทางพาดรถไฟ ถนนเลี่ยงเมืองอุดรธานี-สกลนคร ติดทางเข้าบริษัท ปูนพีทีไอ เขตเทศบาลนครอุดรธานี มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา หลังจากได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม

ที่เกิดเหตุพบศพชายไม่ทราบ ชื่อ นามสกุล และที่อยู่ อายุประมาณ 35-40 ปี สวมเสื้อกันหนาวสีดำ กางเกงยีนขายาว สวมถุงเท้าสีน้ำเงินไม่สวมรองเท้า นอนหงายจมกองเลือด ตรวจค้นในตัวพบเงินสด 80 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง อยู่ในกระเป๋ากางเกง ไม่พบหลักฐานระบุว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน ห่างไป 200 เมตร รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อสตาเลียน stallion centaur 150 สีดำ ไม่ติดแผ่นป้าย ล้มอยู่ริมถนนจากการชันสูตรพลิกศพ พบว่าคอหัก กรามหัก กะโหลกศีรษะด้านหลังแตก

จากการสอบสวน นายประสิทธิ เกียงคำ อายุ 50 ปี พนักงานการเดินรถ 2 ทำหน้าที่พนักงานกั้นถนน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ เวลา 23.16 น. มีรถไฟออกจากสถานีรถไฟอุดรธานี ซึ่งเป็นตู้สินค้าไปบรรทุกปูนที่ จ.สระบุรี และจะผ่านทางพาสรถไฟบริเวณนี้ จึงเปิดสัญญาณบอกรถที่ขับผ่านไปมา ก่อนจะนำเหล็กกั้นลงทั้ง 2 ฝั่ง รถทุกคันได้ชะลอและหยุดจอดกันหมด แต่ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยความเร็ว จากสี่แยกบายพาสอุดร-ขอนแก่น พุ่งชนเข้ากันเหล็กกั้นอย่างจัง ทำให้เสียชีวิตคาที่

ด้าน นายประเสริฐศักดิ์ อุตระศรี อายุ 30 ปี พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยว ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ขณะที่ตนขับรถมาใกล้ทางพาดรถไฟ ได้ยินสัญญาณรถไฟผ่านและเห็นเหล็กกั้นถนนทั้ง 2 ฝั่ง จึงรถชะลอจอดรถ ต่อมาเห็นผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยความเร็ว พร้อมกับก้มตัวหมอบแซงขึ้นไป

ซึ่งในตอนนั้นเหล็กกั้นทางพาดรถไฟลงมาแล้ว ศีรษะผู้ตายชนเข้ากับเหล็กกั้นอย่างแรง ก่อนที่จะตกลงจากรถ ส่วนรถจักรยานยนต์พุ่งไถลไปอยู่ถนนอีกฝั่ง จึงลากร่างผู้ตายออกมาจากราง เพราะเกรงว่าผู้ตายยังไม่ตายแต่รถไฟจะมาเหยียบซ้ำ แต่เลือดไหลออกมาก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ร.ต.อ.แทน นุ่มเจริญ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี สันนิษฐานว่า ผู้ตายรู้ว่ารถไฟจะมาและมีเหล็กกั้น แต่ด้วยความรีบร้อน จึงก้มตัวหมอบแล้วขี่จักรยานยนต์ฝ่า เหล็กกั้น คิดว่าจะพ้น แต่ไม่พ้น จึงชนเหล็กกันอย่างจังจนคอหัก ซึ่งจะเจาะเลือดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ และสืบสวนหาญาติ เพื่อติดต่อมารับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

ที่มา khaosod