ลูกสาวเสียใจสูญเสียพ่อและแม่ไปพร้อมกัน เผยยังช็อกทำอะไรไม่ถูก หลังคนขับกระบะซิ่งชนดับคู่ วอนตำรวจล่าตัวคนขับมารับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
จากกรณีคนขับรถกระบะชนรถสามล้อสกายแลป ที่มี 2 ตายายคือ นายบุญส่ง และนางคำฟั่น แพรวตะคุ อายุ 76 ปีและ 75 ปี ชาวบ้านบ้านหนองไฮ ต.บ้านดุง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ขณะเดินทางกลับจากส่งดอกบัวที่ตลาด อ.บ้านดุง เสียชีวิตทั้ง 2 คน ส่วนคนขับรถกระบะหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อคืน วันที่ 3 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันที่ 4 ม.ค. 65 ที่บ้าน หมู่ 7 บ้านหนองไฮ ต.บ้านดุง เป็นสถานที่ตั้งศพบำเพ็ญของ 2 ตายาย ชาวบ้านและญาติ ๆ ต่างโศกเศร้าเป็นอย่างมาก เพราะทั้งคู่ เข้าวัดประจำ เป็นคนดีขยัน และเวลาว่างจะไปเก็บดอกบัวไปขายยังตลาด ตามออเดอร์ที่มีคนสั่ง
น.ส.สุบัน อายุ 48 ปี ลูกสาวคนโต กล่าวทั้งน้ำตาว่า พ่อกับแม่มีลูก 3 คน ลูกสาว 2 และลูกชายอีก 1 คนทำงานที่ระยอง ตอนรู้ข่าวว่าพ่อและแม่เสียชีวิตไปพร้อมกันแล้วกำลังเดินทางกลับมาร่วมงานศพ พวกเราเสียใจมาก ไม่คิดว่าจะสูญเสียไปพร้อมกันในช่วงวันปีใหม่นี้ ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกรอญาติและพี่น้องมาครบก่อน ค่อยจัดฌาปนกิจศพ โดยเฉพาะแฝดของแม่คือคุณยายคำเผือ ที่อยู่เมืองนอกประเทศอเมริกา รู้ข่าวแทบช็อก เมื่อรู้ว่าแฝดผู้พี่มาเสียชีวิตเพราะถูกรถชน
อยากให้คนขับรถกระบะมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตร.และรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะสอบถามเจ้าหน้าที่ฯ ที่อยู่ประจำจุดตรวจทราบว่าคนขับรถขับมาเร็วมาก ไม่รู้จะเมาหรือเปล่า อยากให้ตร.เร่งติดตามคนขับมาสอบสวนโดยเร็ว ปกติพ่อและแม่จะไปวัดทุกวัน เพราะพ่อเป็นมัคนายกวัดและแม่ก็ตามไปวัดด้วย ไปไหนเขาสองคนจะไปด้วยกันตลอด ถือเป็นคู่ทุกข์คู่ยากกันมาตลอด คนดี ๆ ไม่น่าจะมาเสียชีวิตเร็วขนาดนี้ ไม่ได้ร่ำลาลูก ๆ หลาน ๆ สักคำ
ด้าน นายทองผาด ดวงวงษา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ที่อยู่ด่านตรวจปีใหม่ กล่าวว่า คุณตาและคุณยายกลับจากส่งดอกบัวไปขายในตัว อ.บ้านดุง แล้วจะกลับบ้านที่บ้านหนองไฮ พอมาถึงที่เกิดเหตุจะเลี้ยวขวาเข้าไปในซอยเพื่อลัดไปบ้านหนองไฮ ช่วงจังหวะนั้นเองได้ยินเสียงรถกระบะซิ่งมาเร็วมาก จากนั้นก็ได้ยินเสียงเบรกอย่างแรงชนกับรถสามล้อเครื่องเสียงดังมาก พวกตนก็กำลังกินข้าวอยู่รีบวิ่งออกไปดูก็พบตาและยายเสียชีวิตแล้ว ส่วนคนขับทราบว่ามีชาย 1 หญิง 1 ได้หลบหนีไปแล้ว
ขณะเดียว บริเวณจุดเกิดเหตุสามแยกทางขึ้นเนินบ้านโนนสำราญ นายมงคล แสนวงษา ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงอุดรธานีที่ 2 (หนองหาน) และนายสุภชัย จันทร์ธง รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงอุดรธานีที่2(หนองหาน) พร้อมเจ้าหน้าที่ฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อหามาตรการในการป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น โดยพบว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่พบว่า ถนนเส้นนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยมากทั้งที่เป็น 4 เลน ทำให้รถวิ่งเร็วไม่ชะลอความเร็วและบางจุดเป็นเนินถนนสูง รถที่วิ่งมาไม่ชะลอความเร็ว
ขณะที่ นายมงคล แสนวงษา ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงอุดรธานีที่ 2 (หนองหาน) กล่าวว่า วันนี้ตนมาดูจุดเกิดเหตุเรายกสำนักงานฯมาเลย เพื่อมาช่วยกันดูและจะแก้ไขและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นอีก สำหรับถนนเส้นนี้สร้างเป็น 4 เลนมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว ชาวบ้านอยากได้ความสะดวกสามารถข้ามไปมาได้ ต่อมา อ.บ้านดุง เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวจากต่างถิ่นเดินทางมาเยอะ เขาก็ไม่ชินทาง ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้งทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
ตอนนี้เราจะแก้ไขปัญหาเบื้องต้น คือจะนำอุปกรณ์มาบีบอัดทางบริเวณทางแยกต่าง ๆ ตลอดเส้นทาง เพื่อให้รถชะลอความเร็ว โดยวันจันทร์จะให้เจ้าหน้าที่ฯ ดำเนินการได้เร็ว และปีงบประมาณปี 2566 เราได้งบประมาณมาแล้ว 90 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงถนนเส้นนี้ใหม่แล้ว ส่วนเรื่องไฟสว่างทางที่ชาวบ้านอยากได้ เราติดให้ตลอดทางไม่ได้ เราจะติดให้ได้ก่อนคือตามสามแยกหรือสี่แยกของถนนเส้นนี้ และตอนนี้ที่แยกบ้านโนนงาม ต.บ้านชัย จะติดตั้งเป็นไฟสว่างทางจำนวน 11 ต้นทันที
ส่วนด้านคดี พ.ต.ท.วัฒนา มีทองหลาง รองผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านดุง เผยว่า ตอนนี้ทราบตัวคนขับรถกระบะแล้ว ตร.จะได้ติดตามตัวมาสอบสวนว่าสาเหตุเกิดจากอะไรที่ทำให้ และตอนนี้ยังไม่ได้ดำเนินคดีใครรอให้ตร.สอบสวนก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหลังทราบข่าวจะมีการปรับปรุงถนนเส้นนี้ใหม่ เพราะได้งบมาปีหน้า 90 ล้านบาทต่างพากันดีใจ แต่ก่อนหน้านี้ได้ตั้งชื่อถนนแห่งนี้ว่า ถนนลดจำนวนประชากร เพราะตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.65 มีอุบัติเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วจำนวน 5 รายด้วยกัน
ที่มา khaosod