ลูกค้าสุดกร่างยิงปืนสนั่นฟาร์ม บังคับให้ขายหมูราคาทุนแต่ลูกจ้างไม่ขายให้ ลั่น “มึงรู้ไหม ลูกกูเป็นใคร” ผ่านไป 2 อาทิตย์คดียังเงียบ

เกิดเหตุชายคนหนึ่งเข้ามาโวยวายที่ฟาร์มหมู ชี้หน้าต่อว่าลูกจ้างเสียงดัง จนลูกจ้างฟาร์มหมูต้องเอี้ยวตัวหลบกระสุนด้วยความหวาดเสียว โดยสาเหตุมาจากชายคนดังกล่าวต้องการซื้อหมูในราคา 1,300 บาท แต่ทางฟาร์มไม่สามารถขายให้ได้เนื่องจากราคาหมูพุ่งสูงถึง 2,500 บาทแล้ว ก่อนจะใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงขู่หลายนัด บอกกับพนักงานว่ามึงจะตายด้วยน้ำมือกูเดี๋ยวนี้แหละ มึงรวยเหรอ มึงรู้ไหม ลูกกูเป็นใคร

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่ฟาร์มดังกล่าว ตั้งอยู่พื้นที่บ้านทุ่งแสง ต.สงเปือย อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น โดยได้พบกับ นายวิทยา อายุ 48 ปี เจ้าของฟาร์ม เปิดคลิปขณะเกิดเหตุและร่องรอยกระสุนเจาะแก้วสแตนเลส พร้อมทั้งปลอกกระสุนและหัวกระสุนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 28 ธ.ค.2564 ที่ผ่านมา ขณะนั้นตนเองไม่อยู่ฟาร์มไปทำธุระที่ จ.มหาสารคาม มีเพียงลูกจ้างที่ฟาร์มคอยขายหมูให้กับลูกค้าที่เดินทางเข้ามาซื้อจำนวน 4-5 คน

ก่อนที่ชายที่ถือปืนในคลิปคือ นายไหม อายุ 67 ปี อดีตลูกจ้างในฟาร์ม ซึ่งลาออกไปเปิดกิจการขายหมูเป็นของตัวเองเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ขับรถยนต์กระบะมาจอดที่ฟาร์มแล้วยิงปืนขึ้นฟ้าต้อนให้ลูกน้องของตนเองที่อยู่ฟาร์ม 4-5 คนให้มารวมกัน โดยได้ถามกับลูกน้องในคลิปซึ่งทำหน้าที่ขายหมูให้กับตนเองที่หน้าฟาร์ม

โดยอ้างว่าสั่งหมูป่า 1 ตัว ราคา 1,300 บาท เอาไซซ์ใหญ่โดยได้สั่งกับแฟนนายไหมที่ทำงานอยู่ฟาร์ม ซึ่งสั่งมาเป็นเดือนสองเดือนแล้ว แต่ลูกน้องที่ขายไม่ได้รู้เรื่องด้วย และไม่รู้ว่านายไหมสั่งอะไรกับใครและไม่ได้มีใครมาบอกว่าต้องขายให้นายไหมราคาเท่าไหร่ และที่นายไหมต้องการหมูไซส์ใหญ่นั้น ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะขายให้ในราคา 1,300 บาท เพราะหมูไซส์ใหญ่ราคาต้นทุนอยู่ที่ 2,500 บาทแล้ว

โดยนายไหมได้สั่งซื้อผ่านแฟนตัวเองที่เป็นลูกน้องทำงานอยู่ที่ฟาร์ม จะนำไปเลี้ยงฉลองปีใหม่ ซึ่งแฟนนายไหมไม่กล้าขายให้ เพราะไม่ใช่เจ้าของร้าน และไม่รู้ราคา ซึ่งก่อนที่นายไหมจะมาที่ฟาร์มนั้น นายไหมได้ทวงถามกับแฟนเรื่องหมูที่สั่ง โดยบอกกับนายไหมว่าต้องให้ลูกน้องอีกคนที่อยู่ในคลิป ซึ่งรู้ราคาและมีหน้าที่รับหมูมาขายเป็นคนมาขายให้ จึงเกิดความไม่พอใจใช้อาวุธปืนไล่ยิงแฟน จนแฟนต้องหนีเข้าป่าอ้อยเพื่อเอาชีวิตรอดก่อนจะมาก่อเหตุตามในคลิป ลักษณะเหมือนเตรียมการมาอย่างดี

ซึ่งขณะเกิดเหตุมีคนงานอีกคนได้ยกมือถือบันทึกภาพไว้ แต่ไม่ได้ถ่ายยาวเนื่องจากกลัวจะได้รับอันตราย ซึ่งหลังเกิดเหตุลูกน้องได้ส่งไลน์มาให้ดูพร้อมกับโทรบอกตนเอง จึงได้ให้ลูกน้องทั้ง 4 คนเข้าแจ้งความที่ สภ.ภูเวียง

ต่อมาเมื่อวันที่ 3 ม.ค.2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกผู้ก่อเหตุคือนายไหม มาไกล่เกลี่ยที่โรงพักกับตนเองและลูกน้องที่อยู่ในเหตุการณ์ ทั้ง 4 คน โดยได้เรียกค่าเสียหายและค่าทำขวัญเป็นเงิน 300,000 บาท แต่นายไหมไม่ยอม และไม่มีทีท่าว่าจะสลดหรือกลัวแต่อย่างใด ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปยังไม่สามารถตกลงกันได้ กระทั่งตำรวจก็ได้เรียกพยานไปสอบสวน 2 ปาก และบอกว่าเพียงพอแล้วสำหรับการดำเนินคดี

ซึ่งเวลาผ่านไปเกือบ 2 สัปดาห์ เรื่องยังเงียบคนก่อเหตุก็ยังลอยนวล ถือปืนเพ่นพ่านในพื้นที่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนธุรกิจดำเนินการต่อไม่ได้ ลูกน้องเกิดความกลัวไม่กล้ามาทำงาน จำหน่ายหมูป่าส่งให้ลูกค้าตามออร์เดอร์ไม่ได้ ขาดรายได้่ช่วงปีใหม่กว่า 1 แสนบาท ซึ่งเป็นช่วงทำเงิน อยากฝากตำรวจ สภ.ภูเวียง อันดับแรกอยากให้เอาปืนออกจากมือนายไหมก่อน เพราะลูกน้องไม่กล้ามาทำงานตั้งแต่วันเกิดเหตุที่ 28 ธ.ค.2564 กระเจิดกระเจิงไปคนละทิศทาง งานไม่เดินตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงวันนี้ ธุรกิจส่งหมูแปรรูปก็หยุดชะงัก

ที่มา sanook