สธ.ย้ำ! ความมั่นใจติดโควิดรักษาที่บ้านได้ คาดวัคซีนไฟเซอร์เด็กส่งตามกำหนด

เมื่อวันที่ 16 มกราคม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า ขณะนี้สถานการณ์ระบาดของไทยเข้าสู่เส้นสีส้มของการคาดการณ์ฉากทัศน์ โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่พุ่งขึ้นไปในหลักหลายหมื่นราย

“สธ.พยายามกดให้อยู่ในเส้นสีเขียว แต่ด้วยจะต้องมีมาตรการเข้มงวดมาก เช่น ปิดกิจการ/กิจกรรม เราก็ไม่อยากทำเช่นนั้น ดังนั้น เราต้องประคองทุกมิติให้อยู่ร่วมกันได้ และพยายามทำให้โควิด-19 เป็นเอนเดอร์มิก (Endemic) ในระยะถัดไป” นพ.โอภาส กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงอัตราผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่แยกกักที่บ้าน (Home Isolation) แล้วมีอาการเปลี่ยนแปลงจนต้องเข้าโรงพยาบาล (รพ.) นพ.โอภาส กล่าวว่า รายงานเบื้องต้นส่วนใหญ่สามารถรักษาที่บ้านได้ ผู้ติดเชื้อมีอาการป่วยน้อยมากจนถึงไม่มีอาการ เพราะคนส่วนใหญ่รับวัคซีนไปแล้ว แต่ตัวเลขที่สรุปชัดเจนนั้น อยู่ระหว่างประสานกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่รับผิดชอบสายด่วน 1330 และระบบกักตัวที่บ้าน (HI) ดูแลผู้ติดเชื้อในระบบ

“ยืนยันว่า หากอาการน้อย ได้รับวัคซีนแล้ว สามารถรักษาที่บ้านเข้า HI ได้ เพราะคนที่มีโรคประจำตัว ส่วนใหญ่เราจะให้อยู่ใน รพ.อยู่แล้ว ไม่ให้รักษาที่บ้าน” นพ.โอภาส กล่าว

เมื่อถามถึงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็ก 5-12 ปี พร้อมความเชื่อมั่นให้ผู้ปกครอง นพ.โอภาส กล่าวว่า ตามที่บริษัท ไฟเซอร์ นัดหมายจะส่งวัคซีนสำหรับเด็ก 5-12 ปี มาในช่วงปลายเดือนมกราคม 2565 ยังเชื่อว่าเป็นไปตามกำหนดเดิม ซึ่งจะเช็กวันที่แน่นอนอีกครั้ง ถ้าไม่ได้ปลายเดือนก็ต้นเดือนกุมภาพันธ์ คงไม่หนีจากนี้ อย่างไรก็ตาม กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) รายงานว่าจำนวนเด็กในกลุ่ม 5-12 ปี มีจำนวน 5 ล้านคน จากการสุ่มสำรวจพบว่าผู้ปกครองสมัครใจให้ลูกรับวัคซีนไฟเซอร์ ร้อยละ 70 แต่อย่างที่ผ่านมา ในการฉีดเด็ก 12-18 ปี ตอนแรกก็ระบุว่าจะสมัครใจรับเพียง ร้อยละ 80 แต่เมื่อเวลาผ่านไป พบข้อมูลว่าเกิดผลข้างเคียงน้อยก็สมัครใจเข้ามารับเพิ่มเติม

“ยืนยันว่าวัคซีนที่ อย.รับรองมีความปลอดภัย และสามารถฉีดได้ตามกำหนด ซึ่งรายงานต่างประเทศพบว่า การฉีดในเด็กเล็ก เกิดอาการไม่พึ่งประสงค์ได้เหมือนผู้ใหญ่ แต่เกิดขึ้นได้น้อยกว่ามากด้วยปริมาณที่ใช้ต่างจากผู้ใหญ่ ให้ความมั่นใจกับผู้ปกครอง แต่ทั้งนี้การฉีดวัคซีนสำหรับทุกคนเป็นไปตามสมัครใจ และยืนยันว่าไม่ใช่เงื่อนไขการเข้าเรียนออนไซต์ หรือการเอามากำหนดแนวทางการเรียนของเด็กๆ” นพ.โอภาส กล่าว

ที่มา matichon