บีนา สรางดาร์ จากหมู่บ้านแอบบอทแลงก์ลีย์ มณฑลฮาร์ทฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ รู้สึกตกใจและสับสนสุดขีดเมื่อเธอค้นพบสิ่งผิดปกติ หลังจากตอกไข่ลงในกระทะเพื่อทำอาหารเช้าให้ลูก ๆ โดยไข่ที่ตอกออกมานั้นมีสีแดงอมชมพูที่แปลกประหลาด
ในไม่ช้าความสยองขวัญของเธอก็กลายเป็นความอยากรู้อยากเห็น เธอลองตอกไข่ใบอื่นปรากฏว่ามีลักษณะไข่ขาวปกติ ดังนั้น เธอจึงถ่ายรูปไข่สีชมพูและโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีชาวเน็ตจำนวนมากต่างเตือนเธอว่า อย่าทานไข่ดังกล่าวหรือเอาไปให้ใครก็ตาม เพราะว่าไข่ที่เปลี่ยนสีอาจเป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่อาจทำให้เกิดโรคร้ายแรงได้
บีน่ากล่าวกับเฮิร์ทส์ไลฟ์ “เมื่อวานฉันลองตอกไข่ในกระทะตามปกติ เมื่อมันตกลงไปในกระทะ ฉันกรีดร้องเหมือนไม่เคยเห็นไข่สีชมพูมาก่อน พวกเด็ก ๆ วิ่งมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น และปฏิกิริยาของพวกเขาก็เป็นเรื่องปกติ จากนั้นฉันก็ตอกไข่อีกสองฟองจากกล่องเดียวกัน แต่พวกมันยังปกติ ซึ่งฉันเพิ่งซื้อไข่จากซุปเปอร์มาร์เก็ตแอสดาในวัตฟอร์ด และไม่ค่อยแน่ใจว่าจะทานดีหรือไม่”
โฆษกของแอสดากล่าวว่า“เราไม่ต้องการให้ลูกค้าคนใดของเราไม่พอใจกับผลิตภัณฑ์ที่เราขาย แต่หากมีบางสิ่งที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่พวกเขาคาดหวัง เราจะขอให้พวกเขาส่งคืนผลิตภัณฑ์ไปยังร้านค้าในพื้นที่หรือโทรติดต่อทีมบริการลูกค้าของเรา ที่เราสามารถตรวจสอบได้อย่างเต็มที่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ระบุ ไข่ขาวขุ่นเป็นสัญญาณว่าไข่มีความสดมาก และไข่ขาวใสบ่งชี้ว่าไข่มีอายุมากขึ้น แต่ไข่ขาวสีชมพูหรือสีมุกบ่งบอกถึงการเน่าเสียเนื่องจากแบคทีเรีย Pseudomonas หากรับประทานเข้าไปอาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ บวม และปอดบวมได้
ศูนย์เครือข่ายข้อมูลอาหารครบวงจร รายงาน Pseudomonas เป็นแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเสื่อมเสียของอาหารหลายชนิด ได้แก่ อาหารทะเลและเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู, เนื้อวัว, สัตว์ปีก, ไข่, ผัก และผลไม้ โดยสามารถเจริญเติบโตได้ในสภาวะที่มีออกซิเจนเท่านั้น แถมยังเจริญเติบโตได้ดีที่อุณหภูมิต่ำ ทำให้อาหารที่เก็บรักษาด้วยการแช่เย็นเสื่อมเสียได้
แบคทีเรีย Pseudomonas ทำให้ไข่เน่าเหม็นและเป็นจุดสีหรือเรืองแสง สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งไข่ขาวหรือไข่แดง โดยมักมีสีเขียว สีขมพู สีดำ หรือเป็นลิ่มขาว ดังนั้น หากเจอไข่ที่มีลักษณะเช่นนี้ ขอแนะนำให้ไม่เสียดาย รีบทิ้งไปโดยด่วน ก่อนที่จะเกิดอันตรายต่อร่างกายและสุขภาพ
ที่มา khaosod