เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 20 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ รพ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นพ.ชลวิทย์ หลาวทอง ผอ.รพ.ศรีสะเกษ แถลงข่าวว่า เมื่อวานนี้ (19 พ.ค. 64) คณะแพทย์ พยาบาล รพ.ศรีสะเกษ ได้ทำการผ่าตัดทำคลอดหญิงที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ต้องบอกว่าผู้ป่วยรายนี้เป็นผู้ป่วยที่ยืนยันของโควิดเป็นบวก อายุ 24 ปี เป็นท้องแรกด้วย ถูกส่งตัวมาจากโรงพยาบาลอุทุมพรพิสัยเพื่อทำการคลอดที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ต้องถือว่าเป็นรายแรกของจังหวัดศรีสะเกษและอาจจะถือว่าเป็นรายแรกของภาคอีสานก็ได้ เพราะนับตั้งแต่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประเทศไทยก็มีการทำคลอดเรื่องนี้ประปรายจำนวนน้อยมากแทบจะนับเคสได้เลยต้องถือว่าเป็นการประสบความสำเร็จ ในการดูแลความปลอดภัยของทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ
นพ.ชลวิทย์ หลาวทอง ผอ.รพ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า เราเตรียมการได้ดีนับตั้งแต่การรับส่งผู้ป่วยจากโรงพยาบาลอุทุมพรพิสัยมีการวางแผนในการที่จะผ่าตัดเนื่องจากาเคสนี้ น้ำเดินก่อนกำหนดทำให้ไม่สามารถที่จะทำคลอดตามปกติได้ เราต้องทำคลอดโดยการผ่าหน้าท้องออกจึงได้มีการเตรียมห้องผ่าตัดอย่างดี แพทย์พยาบาลที่ทำการผ่าตัดทุกคนก็ต้องใส่ชุดฟูล ซึ่งห้องนี้เป็นห้องที่พิเศษเป็นห้องความดันลบซึ่งมีอยู่เพียงหนึ่งห้องของ จ.ศรีสะเกษ สำหรับผ่าตัด ซึ่งผลการผ่าตัดปลอดภัยทั้งแม่และเด็ก ซึ่งหลังจากผ่าตัดแล้วขณะนี้คุณแม่และเด็กก็ยังแข็งแรงดี
การติดเชื้อระหว่างแม่ไปสู่ลูกก็บอกได้ว่าน้อยมาก เพราะที่มีรายงานมีเพียงประมาณ 2-5% เท่านั้น เพราะฉะนั้นจึงไม่มีรายงานว่าเชื้อตัวนี้ผ่านทางรกได้หรือว่าผ่านทางน้ำนม ดังนั้นคุณแม่จึงสามารถให้น้ำนมบุตรได้ แต่ต้องระมัดระวังด้วยกันใส่แมสก์ป้องกัน ซึ่งตนได้สั่งการให้มีการบีบน้ำนมจากแม่ไปให้ลูกดื่มจะเป็นการปลอดภัยมากที่สุด โดยมีการแยกห้องกัน โดยห้องหนึ่งเป็นห้องที่คุณแม่จะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ ซึ่งรายนี้ถ้าไม่มีอะไรมีภาวะแทรกซ้อนอาการของคุณแม่ก็คงจะดีขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนเด็กเราก็ต้องป้องกันพิเศษโอกาสติดเชื้อมีน้อยอยู่แล้ว เพราะได้มีการแยกห้องเอาไว้เป็นพิเศษ ตนต้องขอชื่นชมทีมงานทุกคน ซึ่งทุกคนมีความสุขมากที่ได้ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยรายนี้ ตนเห็นสีหน้าแววตาของทีมแพทย์พยาบาลชุดนี้แล้วทุกคนมีความกระตือรือร้นและพร้อมที่จะช่วยไม่มีความคิดว่าจะไม่อยากทำหรือว่าเกี่ยงกันเลย ซึ่งในช่วงที่ทำการผ่าตัดคลอดนั้นแพทย์พยาบาลทุกคนเห็นแววตาของคุณแม่ที่มองลูกที่กำลังคลอดออกมานั้น คณะแพทย์พยาบาลทุกคนเห็นแล้วคงมีความรู้สึกว่าเป็นความรู้สึกที่สุดยอดที่สุดของคุณแม่ เพราะการผ่าตัดเคสนี้เราไม่ได้ให้ดมยา เราใช้วิธีบล็อกหลังทำให้คุณแม่รู้สึกตัวตลอดเวลา ฉะนั้นวินาทีแรกที่เด็กร้องตนเห็นว่าในความรู้สึกของแม่ทั้งๆ ที่แม่ป่วยติดเชื้อโควิด-19 แล้วมองเห็นลูก ตนเห็นว่าเป็นความรู้สึกที่ไม่น่าที่จะบรรยายได้ ตนเข้าใจในความรู้สึกของความเป็นแม่และที่สำคัญที่สุดคือความรู้สึกของทีมงานที่ได้ทำตรงนี้ที่ได้ผ่าตัดตรงนี้ทำให้ทุกคนมีความภาคภูมิใจมาก
นพ.ชลวิทย์กล่าวต่อไปว่า ต้องขอบอกว่าขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของ จ.ศรีสะเกษยังคงวิกฤต ยังมีผู้ติดเชื้อประปรายอยู่ในแต่ละคลัสเตอร์สำหรับ รพ.ศรีสะเกษ เป็นที่รับผู้ป่วยเกรด 3 เกรด 4 ยังมีผู้ป่วยที่ยังเหลืออยู่ห้องไอซียู แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานของการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกคนก็มีอาการดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งบางคนก็ยังอยู่ในขั้นวิกฤต แต่ก็ยังไม่ถึงกับทำให้เสียชีวิต
ตนขอฝากถึงประชาชนชาวศรีสะเกษว่า ตอนนี้ถึงแม้ว่าเราจะอยู่กันอย่างปกติแบบนี้ ก็อยากให้เข้มข้นในเรื่องของการใส่แมสก์ต้องติดตัวไว้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ในบ้านตัวเองหรือข้างนอกก็ตามและในเรื่องของการล้างมือบ่อย ๆ และการเว้นระยะห่าง แต่ถ้าตัวเองสงสัยว่าจะมีการติดเชื้อในกลุ่มเสี่ยง ควรแยกตัวเองออกมาแล้วควรไปตรวจหากผลออกมาว่าลบก็อย่าเพิ่งชะล่าใจเพราะว่าอีก 4-5 วันเชื้อที่ฟักตัวออกมาอาจจะทำให้ผลเป็นบวกได้ อาจจะต้องมาตรวจซ้ำหรือในช่วง 4-5 วันนี้จะต้องแยกตัวจากครอบครัวเพื่อป้องกัน
ที่มา MATICHON