เมื่อวันที่ 18 ม.ค.65 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีพระชั้นผู้ใหญ่ระดับพระครู หรือเจ้าอาวาสวัดหลายวัด ได้กระทำการเผยแผ่พระศาสนาที่อาจขัดต่อพระธรรมะวินัยเป็นจำนวนมาก โดยอาศัยความโง่เขลา เบาปัญญาของพุทธบริษัท เป็นเครื่องมือในการแสวงหาลาภปัจจัย ซึ่งมหาเถรสมาคมควรที่จะต้องออกมากำหลาบหรือจัดการพระนอกรีตเหล่านี้เสีย เพื่อมิให้ศาสนาแปดเปื้อนและถูกเข้าใจผิดว่า การกระทำดังกล่าวเป็นกิจของสงฆ์

พฤติการณ์ดังกล่าว อาทิ การเขียนยันต์ต่างๆ โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการเตือนสติผู้คนให้ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท ดำเนินชีวิตด้วยสติสัมปชัญญะ ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมและรักษาศีล 5

รวมทั้งที่กำลังเป็นกระแสฮิตกันมากคือ การเจิมหน้าผากด้วยแผ่นทองคำเปลว การเขียนยันต์หัวใจมหาเศรษฐีลงบนฝ่ามือ และการลงนะหน้าทองแบบเต็มใบหน้า โดยอ้างว่าจะช่วยเสริมสร้างสิริมงคล หนุนดวง เสริมดวงชะตาในด้านเมตตา มหาเสน่ห์ เสริมบารมี และเพิ่มโชคลาภ ลงแล้วจะเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวย ซึ่งถ้าทำแล้วทำให้ร่ำรวยจริง คงไม่มีคนยากคนจนเต็มแผ่นดินอยู่ในขณะนี้

การกระทำดังกล่าวไม่ใช่กิจของสงฆ์ ไม่เคยปรากฏอยู่ในพระไตรปิฏก และหรือไม่อยู่ในคำสอนของสัมมาสัมพุทธเจ้า หากแต่เป็น “โลกวัชชะ” เป็นอวิชชา หรือเดรัจฉานวิชา ที่พวกหมอผี หรือผู้ที่นิยมทางไสยศาสตร์เขาทำกัน ซึ่งขัดต่อความเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา ที่มุ่งสอนให้พุทธบริษัทหลุดพ้นจากวัฏฏะสงสาร มุ่งสู่ศีล สมาธิ และปัญญา

มากกว่าการเผยแพร่พระศาสนาโดยใช้อวิชชาทางไสยศาสตร์เป็นธงนำ และการกระทำดังกล่าวอาจจะผิดศีลอาบัติขั้นสังฆาทิเสสได้ เนื่องจากเสี่ยงที่จะแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงหรืออุบาสิกาได้ หรือถึงขั้นอาบัติปาราชิกได้ เพราะอาจถือได้ว่าเป็นการอวดอุตตริมนุสสธรรม หรือการอวดอ้างคุณวิเศษที่ไม่มีในตน

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้มีหนังสือร้องเรียนไปยังมหาเถรสมาคม ผ่านสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อขอให้ใช้อำนาจตาม พรบ.คณะสงฆ์ 2505 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในการเอาผิดพระนอกรีตเหล่านี้ และออกกฎมหาเถรสมาคม

เพื่อสั่งห้ามพระภิกษุในพุทธศาสนาเผยแพร่พระศาสนาโดยวิธีการเจิมหน้าผากด้วยแผ่นทองคำเปลว และหรือการเขียนยันต์หัวใจมหาเศรษฐีลงบนฝ่ามือ และการลงนะหน้าทองให้กับพุทธบริษัทโดยเด็ดขาด หากมีพระรูปใดฝ่าฝืนให้ทำการจับสึกไปเสีย และหรือถอดถอนสมณศักดิ์ที่มีออกไปเสียด้วย

ที่มา khaosod