ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า กัดฟันตรึงราคาต่อ แม้ต้นทุนการผลิตเพิ่ม จัดโปรกระตุ้นยอดขายต่อ ด้าน ผู้ผลิตน้ำอัดลม ขานรับ ไม่ปรับขึ้นราคา จุรินทร์ สั่งคุมเข้ม

วันที่ 18 ม.ค.65 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่มีการเสนอข่าวว่าจะมีการปรับขึ้นราคาน้ำอัดลมในช่วงที่ผ่านมานี้ เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2565 กรมการค้าภายในได้ประชุมกับบริษัทผู้ผลิตน้ำอัดลมรายใหญ่ เช่น โค้ก เป๊ปซี่ มิรินด้า เซเว่น-อัพ แฟนต้า สไปร์ส เอส อาเจบิ๊กโคล่า และ RC (โคล่า)

โดยได้แจ้งนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่ยังไม่มีนโยบายให้มีการปรับขึ้นราคา จึงขอให้ผู้ผลิตน้ำอัดลมตรึงราคาจำหน่ายเดิม ซึ่งผู้ผลิตน้ำอัดลมยืนยันว่ายังไม่มีการปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด และยินดีให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์

ดังนั้น เมื่อผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำอัดลมต้นทางไม่มีการปรับราคาแล้ว หากผู้ค้ารายใดปรับขึ้นราคาจำหน่ายให้กับประชาชนก็จะถือว่าเป็นการฉวยโอกาสขึ้นราคา ซึ่งจะมีโทษตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ อย่างไรก็ตาม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ สั่งการให้กรมการค้าภายในและพาณิชย์จังหวัดตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ หากพบเห็นว่ามีการกักตุนหรือฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ

นายวัฒนศักย์ ยังกล่าวอีกว่า ตามที่มีการเสนอข่าวว่ามีการปรับราคาสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในตลาด เมื่อวันที่ 17 ม.ค.65 กรมการค้าภายใน ได้ประชุมกับสมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็คทรอนิกส์และโทรคมนาคม และผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ เช่น ซัมซุง แอลจี มิตซูมารู มิตซูบิชิ ฟิลิปส์ และโตชิบา โดยสมาคมฯ และผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าได้แจ้งว่า ในช่วงที่ผ่านสถานการณ์โควิด-19 ได้ส่งผลให้กำลังการซื้อของผู้บริโภคลดลง ในขณะที่ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น

แต่อย่างไรก็ตามเข้าใจถึงสถานการณ์ขณะนี้ และไม่ต้องการเพิ่มภาระให้กับผู้บริโภค ซึ่งสมาคมฯ และผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ายินดีที่จะดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่ยังไม่มีนโยบายให้มีการปรับขึ้นราคา และจะได้จัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นการจำหน่ายเป็นระยะต่อไป ซึ่งนายจุรินทร์ สั่งการให้กรมการค้าภายในและพาณิชย์จังหวัดตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ หากพบเห็นว่ามีการกักตุนหรือฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ

ที่มา khaosod.