สภาองค์กรของผู้บริโภค เสนอ 5 แนวทางลดผลกระทบ ‘หมูแพง’ ข้องใจราคาเมื่อซื้อมาประกอบอาหาร แพงกว่าหน้าฟาร์ม 2 เท่า หนุนเกษตรกรรายย่อยเลี้ยงหมูหลุม
วันที่ 18 ม.ค.65 น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวถึงกรณีปัญหาหมูแพง ว่า ทางออกของผู้บริโภคในวิกฤตราคาหมูครั้งนี้มีความซับซ้อนอยู่ในระดับหนึ่ง แม้ว่าข้อเสนอระยะสั้นที่หลายฝ่ายเห็นว่า อาจมีความจำเป็นที่ต้องนำเข้าเนื้อหมูแช่แข็งชั่วคราวจากต่างประเทศ เนื่องจากปริมาณเนื้อหมูมีไม่เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ
รวมทั้งยังมีราคาแพงจนไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค แต่การนำเข้าเนื้อหมูแช่แข็งจะต้องกำหนดเงื่อนไขให้ชัดเจนและสนับสนุนให้เกิดทางเลือกในการบริโภคของผู้บริโภคอย่างแท้จริง โดยจำกัดเฉพาะเนื้อหมูที่มาจากแหล่งผลิตที่ปลอดจากการใช้สารเร่งเนื้อแดงเท่านั้น
น.ส.สารี กล่าวว่า ส่วนข้อเสนอระยะยาว รัฐควรต้องหาแนวทางในการทำให้เกิดโครงสร้างการเลี้ยงหมูของเกษตรรายย่อยในพื้นที่ต่างๆ เพิ่มขึ้น เพื่อชดเชยผู้เลี้ยงหมูที่ล้มหายไปไม่น้อยกว่า 200,000 ราย ไม่ให้เกิดการผูกขาดด้านราคาที่ขึ้นอยู่กับบริษัทขนาดใหญ่หรือผู้เลี้ยงรายใหญ่เท่านั้นดังเช่นที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
ขณะที่ผู้บริโภคอาจต้องมีส่วนรับผิดชอบที่จะทำให้เกิดกระบวนการเลี้ยงหมูที่ปลอดภัย ลดการใช้ยาปฏิชีวนะซึ่งเป็นต้นตอของโรคระบาดในหมู หรือต้นตอของความไม่ปลอดภัย จนเป็นสาเหตุสำคัญของเชื้อดื้อยาในมนุษย์ในท้ายที่สุด
นอกจากนี้ หน่วยงานรัฐและหน่วยงานในระดับท้องถิ่นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจะต้องมีบทบาทในการทำให้เกิดการสนับสนุนการเลี้ยงหมูแบบธรรมชาติ ที่รู้จักกันในนาม ‘หมูหลุม’
สอบ. ได้มีข้อเสนอ ‘แนวทางลดผลกระทบจากเนื้อหมูราคาแพงต่อผู้บริโภค’ ดังต่อไปนี้ 1. นำเข้าเนื้อหมูแช่แข็งชั่วคราวแบบมีเงื่อนไขจากแหล่งผลิตที่ปลอดสารเร่งเนื้อแดงเท่านั้น 2. ปรับโครงสร้างคณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ (Pig Board)
3. ผลักดันท้องถิ่นให้สนับสนุนเกษตรรายย่อยเลี้ยงหมูเพิ่มขึ้นอย่างเป็นระบบ 4. ผู้บริโภคร่วมมีบทบาทสนับสนุนให้เกิดการเลี้ยงหมูแบบธรรมชาติ หรือ หมูหลุม เพื่อลดการใช้ยาปฏิชีวนะ และ 5. สนับสนุนการวิจัยการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ และเพิ่มการผลิตโปรตีนจากพืชที่มีราคาถูกกว่า และมีส่วนในการลดโลกร้อน
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตถึงปัญหาโครงสร้างราคาที่ยังไม่มีความชัดเจน ระหว่างราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มเป็นอีกราคาหนึ่ง แต่เมื่อซื้อมาประกอบอาหารทำไมจึงต้องมีการกำหนดราคาเป็นสองเท่าของหมูมีชีวิต
รวมทั้งปัญหาวัตถุดิบในการเลี้ยงหมูซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญของเกษตรกรก็นับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับต้นทุนการเลี้ยงหมูในต่างประเทศ จึงเกิดคำถามว่าความเป็นธรรมของราคาต่อผู้บริโภคและคุณภาพชีวิตของเกษตรกรจะมีการจัดการอย่างให้เป็นระบบอย่างไร
ขณะที่อีกทางเลือกหนึ่ง คือ การกำหนดให้มีแนวทางลดการบริโภคเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นสาเหตุใหญ่ประการหนึ่งที่เพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ดังนั้น จึงมองว่าควรมีการสนับสนุนการศึกษาวิจัยในสถาบันการศึกษาเรื่องผลกระทบของปศุสัตว์ขนาดใหญ่ต่อภาวะโลกร้อน และมีทางเลือกใหม่ในการผลิตอาหารโปรตีนจากพืชที่นำมาทดแทนเนื้อสัตว์ที่มีราคาแพง
ที่มา khaosod