สลด สองแม่ลูก ขี่จยย.ไม่ชินทาง ก้มมอง GPS แหกโค้งชนขอบทางดับคู่

สลด สองแม่ลูก ไม่ชินทาง ขับจักรยานยนต์แหกโค้ง พุ่งชนขอบทางร่างกระเด็นตกร่องกลางถนนเลียบรันเวย์สุวรรณภูมิเสียชีวิตคู่ พบโทรศัพท์เปิด GPS ค้างไว้

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 19 ม.ค.2565 ร.ต.อ.ชนธัญ พรหมรักษา รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รับแจ้งเหตุอุบัติเหตุบนถนนสายสุวรรณภูมิ สาย 3 เลียบรันเวย์ ช่วงโค้งเข้าจากถนนเทพรัตนมุ่งหน้าสนามบิน ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่การท่า จราจร และมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุภายในร่องกลางถนนพบศพสองแม่ลูกชื่อ น.ส.นิภา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี และลูกชายวัย 6 ขวบ สภาพศพทั้งคู่แขนขาหัก คอหัก ห่างกันประมาณ 100 เมตร ที่ลานหญ้าข้างทางพบรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นของผู้ตาย สภาพล้มอยู่ ไม่พบร่องรอยการถูกชนท้ายหรือได้รับความเสียหายจากการถูกรถอื่นชนแต่อย่างใด

สองแม่ลูก ไม่ชินทาง ขับจักรยานยนต์แหกโค้ง พุ่งชนขอบทางร่างกระเด็นตกร่องกลางถนนเลียบรันเวย์สุวรรณภูมิเสียชีวิตคู่

เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปทำแผนที่ที่เกิดเหตุ และลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน จากนั้น จึงให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตทั้งสองส่งชันสูตรที่นิติเวชโรงพยาบาลรามาสมุทรปราการ ซึ่งจากการตรวจสอบที่โทรศัพท์มือถือของผู้ตายพบว่า มีการเปิดระบบ GPS ปักหมุดปลายทางที่ จ.ปทุมธานี

จากการสอบถามพยานผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งขับรถผ่านทางและทำงานอยู่ในสนามบินสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ขณะขับรถกำลังจะเข้าไปทำงาน พอมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งพบรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุอยู่ในเลนซ้ายห่างจากหน้ารถตนประมาณ 10 เมตร ส่วนตนอยู่เลนขวา จังหวะที่เข้าโค้งซ้ายตามทาง ปรากฏว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวหลุดโค้งจากซ้ายพุ่งชนขอบปูนเกาะกลางถนนจนร่างคนขับและคนซ้อนกระเด็นลอยตกในร่องกลางถนน

ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยต่อว่า ซึ่งจังหวะนั้นตนได้หักหลบรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ และไม่สามารถจอดลงไปดูได้เนื่องจากมีรถหลังตามมาจำนวนมากด้วยความเร็ว จึงรีบโทรแจ้งศูนย์สุวรรณภูมิให้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ยืนยันที่เกิดเหตุไม่มีรถใดเฉี่ยวชนแต่อย่างใด

ด้าน พนักงานสอบสวน ระบุว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบร่องรอยการชนที่ขอบปูนเกาะกลาง ส่วนที่รถจักรยานยนต์ไม่พบร่องรอยการถูกชนท้ายแต่อย่างใด สันนิษฐานเบื้องต้นผู้ตายอาจไม่ชินทาง และเปิด GPS มุ่งหน้าที่หมาย พอมาถึงที่เกิดเหตุอาจจะก้มมอง GPS หรือหลับใจ จนกระทั่งหลุดโค้งดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ถนนสายนี้พบว่าเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างมากและในส่วนใหญ่มักเป็นอุบัติเหตุที่ค่อนข้างรุนแรงเนื่องจากเป็นถนนทางตรงยาวและรถส่วนใหญ่ใช้ความเร็วสูง จึงอยากฝากผู้เกี่ยวข้องหามาตรการในการควบคุมความเร็วบนถนนสายนี้เพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นอีก

ที่มา khaosod