หนุ่มสุดช้ำ โดนพ่อแม่ขายตั้งแต่เกิด กลับมาพบกัน พ่อแม่ไม่สนใจ หวั่นเป็นภาระ

หนุ่มจีนสุดช้ำ โดนพ่อแม่ขายตั้งแต่เกิด ผ่านมา 17 ปี ตามหาพ่อแม่จนเจอ แต่กลับไม่เป็นอย่างหวัง พ่อแม่ไม่สนใจ หวั่นสร้างภาระ ทำครอบครัวใหม่มีปัญหา

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน “หลิว เฉียโจว” หนุ่มนักศึกษาวัย 17 ปี จากมณฑลเหอเป่ย ทางเหนือของจีน ได้กลับมาพบหน้าพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดอีกครั้ง หลังจากพลัดพรากกันจากกันมานาน เขาคาดหวังว่าการพบหน้ากันครั้งนี้ จะทำให้พ่อแม่รู้สึกดีใจและเขาจะกลับมามีครอบครัวอบอุ่นอีกครั้ง แต่ทว่าเขาคิดผิด

ตามรายงาน พ่อแม่ของหลิวตั้งท้องเขาก่อนที่จะแต่งงานกัน ทั้งคู่จึงตัดสินใจขายเขาให้กับพ่อค้าคนกลาง เพื่อนำเงินที่ได้มาใช้ในการจัดงานแต่งงาน และต่อมาเขาก็ถูกพ่อแม่บุญธรรมซื้อตัวไป

แต่ความสุขอยู่ได้ไม่นาน เมื่อหลิวอายุได้ 4 ขวบ พ่อแม่บุญธรรมได้ประสบอุบัติเหตุ ระเบิดลงบ้านส่งผลให้เสียชีวิตทั้งคู่ ทำให้เขาได้รับการเลี้ยงดูจากปู่ย่าบุญธรรมและต้องวนไปอยู่ตามบ้านญาติหลังต่าง ๆ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาต้องทำงานหาเงินและใช้ชีวิตด้วยเงินสำหรับเด็กกำพร้าจากรัฐบาล

ต่อมา หลิวมีความคิดอยากตามหาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด จึงประกาศตามหาพ่อแม่บนโลกออนไลน์ หวังแรงชาวเน็ตช่วยตามหา และไม่นาน เขาก็ได้เบอร์โทรศัพท์ของพ่อผู้ให้กำเนิดจึงติดต่อกลับไป

ในตอนแรก พ่อคิดว่าหลิวเป็นพวกหลอกลวง จนกระทั่งตำรวจติดต่อไปจึงเริ่มเชื่อ และผลการตรวจดีเอ็นเอก็ยืนยันว่าพวกเขาเป็นพ่อลูกกัน ทำให้เขาแชร์เรื่องราวการกลับมาพบหน้าครอบครัวลงบนโซเชียลอย่างมีความสุข

แต่ทว่าความสุขอยู่ได้ไม่นาน ในวันที่ 17 ม.ค. 65 หลิวได้โพสต์บนเว่ยป๋อว่า แม่ได้บล็อกวีแชทเขา พร้อมกล่าวว่า พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดยอมมาพบหน้าเขา เพียงเพราะถูกกดดันจากสาธารณชนเท่านั้น

เนื่องจากพ่อแม่ได้หย่าร้างและแยกย้ายไปมีครอบครัวใหม่ ซึ่งพวกเขาเกรงว่าการกลับมาของหลิวจะทำให้ครอบครัวใหม่ต้องยุ่งเหยิง และไม่มีใครอยากให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่เขา เพราะเห็นว่าเขาเกือบจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่แล้ว

โดยผู้เป็นพ่อยอมรับว่า เขาเกรงว่าภรรยาใหม่จะขอหย่าหากรับหลิวมาเลี้ยงดู ส่วนผู้เป็นแม่ก็ดูไม่สนใจใยดีเขา แถมยังกล่าวว่า หากวันนั้นไม่มีพ่อแม่บุญธรรมซื้อตัวไป ก็คงจะมีคนอื่นมาซื้อตัวเขาไปอยู่ดี

นอกจากนี้ ทางฝั่งพ่อแม่ยังได้อ้างว่า หลิวได้บังคับให้พวกเขาซื้อบ้านให้ ซึ่งพวกเขาไม่มีเงินมากพอขนาดนั้น ฝ่ายหลิวจึงออกมาโต้กลับว่า พ่อแม่บิดเบือนความจริง พร้อมทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้จะให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน!

ที่มา khaosod