อธิบดีกรมควบคุมโรคเผยโควิดยังไม่พุ่งขึ้นมาก ดีกว่าที่คาดไว้ พร้อมจับตาผู้ติดเชื้อหลังผ่อนคลายดื่มเหล้าในร้านถึง 5 ทุ่ม ย้ำต้องเข้ม COVID Free Setting
วันที่ 23 ม.ค.65 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ขณะนี้ผู้ติดเชื้อใหม่เฉลี่ยที่ 8 พันรายต่อวัน ยังไม่ถือว่าพุ่งขึ้นมาก ผู้ป่วยอาการรุนแรงก็ไม่เยอะ เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ จริงๆ ถือว่าดีกว่าที่คาดไว้ แต่ด้วยสายพันธุ์โอมิครอนที่ติดง่าย แพร่เชื้อเร็ว จึงต้องยังระวังอยู่ต่อเนื่อง
เตียงไอซียูของ รพ.และโรงเรียนแพทย์ ยังมีเพียงพอรองรับ ซึ่งต่างจากช่วงเดลตาที่ผู้ป่วยอาการหนักค่อนข้างเยอะ ผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการจะให้รักษาที่บ้าน (Home Isolation) ซึ่งพิสูจน์ว่าเวิร์ก สะดวก มีช่องทางติดต่อแพทย์หากอาการมากขึ้น แต่เท่าที่ดูผู้ติดเชื้อที่อยู่ HI แล้วมีอาการเปลี่ยนต้องเข้า รพ. พบว่ามีไม่มาก
ถามว่าการคาดการณ์ผู้ติดเชื้อหลังผ่อนคลายให้นั่งดื่มสุราในร้านอาหารได้ถึง 23.00 น. ใน 33 จังหวัด นพ.โอภาส กล่าวว่า เราติดตามสถานการณ์ทุกวัน แต่อย่างที่เรียนรู้กันมาคือ
เมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการใด จำนวนผู้ติดเชื้อก็เพิ่มขึ้น ตรงไปตรงมา เพราะถ้าเปิดกิจกรรมแล้วไม่ติดเชื้อเพิ่ม เราก็คงเปิดทุกกิจกรรม แต่ด้วยเราชะลอการเปิดกิจกรรมในช่วงแรก เพราะต้องรอประเมินว่าโอมิครอนแท้จริงแล้วรุนแรงหรือไม่
แต่ตอนนี้พิสูจน์แล้วว่า เตียงไอซียูเพียงพอรองรับได้ เราจึงเปิดเป็นขั้นเป็นตอนไป คือ ผับบาร์ คาราโอเกะ ยังไม่เปิดให้บริการ ร้านอาหารที่เปิดให้ดื่มแอลกกอฮอล์ ต้องมีมาตรการ COVID Free Setting พนักงานรับวัคซีนครบ ตรวจหาเชื้อด้วย ATK ก่อนให้บริการลูกค้า จะไม่อิสระแบบเมื่อก่อน และย้ำในเรื่องร้านต้องถ่ายเทอากาศได้
เมื่อถามว่ามีข้อทวงติงถึงมาตรการ ATK Frist ก่อนเข้าสถานที่/กิจกรรม อาจจะมีประโยชน์น้อย เพราะหากเพิ่งรับเชื้อมายังตรวจไม่พบ แต่สามารถแพร่เชื้อได้ นพ.โอภาส กล่าวว่า ATK เป็นเครื่องมือคัดกรองเบื้องต้น ผลตรวจอาจจะไม่แม่นยำเท่า RT-PCR แต่มีประโยชน์ เพราะราคาถูกกว่า ตรวจง่าย รู้ผลเร็ว จึงใช้ประโยชน์นี้เพื่อคัดกรอง
โดยเฉพาะผู้ที่ต้องไปเจอคนมากๆ ก็แนะนำว่าให้ตรวจได้ตามความเสี่ยง เพื่อป้องกันตัวเองและคนรอบข้าง เราต้องรู้ว่าแต่ละวิธีมีจุดแข็ง จุดอ่อน ดังนั้น จะให้ใช้ ATK แทน RT-PCR คงไม่ใช่ ขอให้มองจุดแข็ง ประโยชน์ของเครื่องมือนั้นๆ ใช้ให้เหมาะสมกับ
ที่มา khaosod