หนูน้อยวัย 2 ขวบ ตกบ่อน้ำ พ่อกระโดดลงไปช่วย ก่อนดับคู่ คาดไม่มีอากาศหายใจและหมดสติจมไปในบ่อน้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ ปภ.สุราษฎร์ธานี พร้อมทีมกู้ภัย เข้าดำเนินการนำร่างของ นายสวัสดิ์ชัย อายุ 25 ปี และเด็กชายธนากร อายุ 2 ขวบ 10 เดือน ขึ้นจากบ่อน้ำตื้นภายในลานเทปาล์มน้ำมันกำลังก่อสร้าง พื้นที่ ม.6 ต.เคียนซา อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเวลา 14.30 น.

หลังรับแจ้งบุคคลทั้งสองตกลงไปในบ่อดังกล่าวและจมหายไปในน้ำ คนที่เห็นเหตุการณ์พยายามช่วยเหลือแต่ไม่ทัน คาดว่าขาดอากาศหายใจและหมดสติจมไปในบ่อน้ำ ซึ่งวัดความลึกจากปากบ่อถึงก้นบ่อ 11 เมตร และมีน้ำในบ่อลึก 5.5 เมตร

นายอภิรักษ์ จันทร์รอด ช่างไฟที่เพิ่งเข้ามาติดตั้งระบบไฟฟ้าให้กับลานปาล์มแห่งนี้ เล่าว่า ในช่วงเกิดเหตุตนเดินระบบไฟอยู่ในตัวอาคาร ซึ่งห่างจากบ่อประมาณ 15 เมตร ส่วนผู้เสียชีวิตเป็นช่างปูนกำลังก่ออิฐอยู่ตรงจุดที่มีบ่อน้ำ

เวลาประมาณ 13.00 น. นายสวัสดิ์ชัยได้วิ่งมาบอกว่าลูกชายของเขาตกน้ำ ตนเองจึงรีบวิ่งออกมาดู ก็เห็นนายสวัสดิ์ชัยกระโดดลงไปในบ่อเพื่อช่วยลูก ตนเรียกก็ขานรับจึงรีบไปหาไม้ไผ่มาหย่อนลงไปในบ่อให้จับประคองตัวไว้ไม่ให้จมน้ำ เพื่อรอคนมาช่วยดึงขึ้นจากบ่อ แต่จากนั้นไม่นานผู้เสียชีวิตก็ค่อยจมลงไปในน้ำคาดว่าหมดสติ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ 

ด้าน นายนิติศักดิ์ บุญมานนท์ หัวหน้ากู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ฯ ได้วางแผนดำเนินการจุดไฟที่ปลายไม้เพื่อตรวจสอบอากาศภายในบ่อหากมีอากาศก็จะให้คนลงไป แต่ถ้าไฟดับแสดงว่าไม่มีอากาศ ก็ค่อยวางแผนใช้วิธีการอื่น ซึ่งจากการทดสอบพบว่าเมื่อจุ่มไม้ลงไปในบ่อประมาณ 3 เมตรยังไม่ทันถึงผิวน้ำ ไฟก็ดับ

จึงใช้วิธีการตั้งคานสามเหลี่ยม นำเปลสแตนเลสและไม้ไผ่ปลายตะขอเกี่ยวร่างผู้เสียชีวิตเข้าเปลแล้วค่อยๆดึงขึ้นมา ก่อนจะใช้เชือกคล้องขาแล้วดึงร่างผู้เป็นพ่อขึ้นจากบ่อได้สำเร็จตอนเวลาประมาณ 16.35 น. ก่อนจะใช้ไม้ตะขอควานหาเด็กต่อและคล้องขาด้วยเชือกบวง และดึงขาเด็กได้ในเวลา 16.45 น. ท่ามกลางความเสียใจของญาติ

สำหรับครอบครัวนายสวัสดิ์ชัย ได้แยกทางกับภรรยาและเลี้ยงลูกเอง เวลาไปทำงานลูกก็จะตามไปด้วยตลอดบางวันก็ไปอยู่กับปู่ และมาทำที่ลานเทปาล์มแห่งนี้เพียงแค่สามวันก่อนเกิดเหตุเศร้า

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เคียนซา จะได้นำร่างผู้เสียชีวิต ส่งชันสูตรต่อที่ รพ.เคียนซา แจ่างละเอียดอีกครั้งก่อนคืนร่างให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลศพตามประเพณีต่อไป

ที่มา sanook