เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 ม.ค. ที่วัดปริวาสราชสงคราม บรรยากาศที่วัด พบว่ามีสื่อมวลชนหลายสำนักไปปักหลังรอเฝ้าสังเกตการณ์ ท่ามกลางความเงียบสงบ โดยทางทีมข่าว ได้สอบถามข้อมูลกับพระลูกวัดปริวาสฯ
พระธีรพงษ์ ถิรปัญโญ พระลูกวัดปริวาสราชสงคราม กล่าวว่า ตั้งแต่วันแรกที่พระนรวิชญ์กับพระพ่อ อยู่ในอาการโศกเสร้า จิตตก ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจากับใคร ซึ่งก็เข้าใจได้
เพราะว่าเหตการณ์แบบนี้ มันพูดยาก ช่วงเช้าที่ผ่านมาพระนรวิชญ์กับพระพ่อไม่ได้ออกมาทำวัดเช้า แต่ว่าตื่นเช้าขึ้นมาสวดมนต์และแผ่เมตตาให้กับคุณหมอในห้อง ตามจุดประสงค์ที่อยากจะบวชตั้งแต่แรก
ตอนนี้กระแสโซเชียลค่อนข้างรุนแรง สภาพจิตใจของพระนรวิชญ์แย่มาก เหตุการณ์จับต้นชนปลายไม่ถูก ดีที่มีพระพ่อคอยดูแล ตอนนี้เขายอมรับผิดแล้ว สังคมก็ต้องให้อภัยกัน
สิ่งที่พระนรวิชญ์ทำก็ดีแล้วบวชเป็นบุญกุศล อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับหมอกระต่าย
อาจจะมีบางความคิดเห็นที่บอกว่า หมอกระต่ายนับถือศาสนาคริสต์ พระนรวิชญ์ ก็สามารถบวชให้ได้เพราะทุกศาสนาเป้าหมายคือสอนให้ทุกคนทำความดี แผ่เมตตา ทำจิตใจให้สงบ อย่าขาดสติ และอย่าประมาท เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกหนึ่งวันก็ถึงวันเกิดของหมอกระต่ายแล้วในหลักศาสนา เรียกว่าสิ้นอายุขัย คนที่อยู่ก็ทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้เขาไป
ต่อมาเมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 26 ม.ค. ที่วัดปริวาสราชสงคราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเพื่อนร่วมงานที่เป็นตำรวจ ได้นำข้าวกล่องจำนวน 2 กล่อง เข้าไปให้ในกุฏิ
เนื่องจาก ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา พระนรวิชญ์ และพระพ่อ ยังไม่ออกจากกุฏิเลย
จากการสอบถามข้อมูล ทราบว่าตอนนี้ พระนรวิชญ์ สภาพจิตใจยังแย่ ฉันท์ไม่ได้ แต่มีพระพ่อคอยดูแลอย่างใกล้ชิด และให้ลูกฝืนทาน โดยปกติพระนรวิชญ์
เป็นคนไม่พูดเป็นคนเงียบๆอยู่แล้ว และพระพ่อเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวมาตั้งแต่เด็ก และเมื่อลูกสอบติดได้ไม่กี่เดือน พ่อก็ภาคภูมิใจในตัวลูกมาก และการเกิดเหตุครั้งนี้ ตัวของพระนรวิชญ์เสียใจมาก
ทั้งนี้ วันนี้พระทั้งสอง จะไปร่วมงานศพก่อนทั้งผ้าเหลือง ก่อนจะเดินทางมาสึกภายในวันนี้
ที่มา khaosod