เร่งล่าตัว ช้างป่าหนุ่มหนัก 4 ตัน หลงเข้าไปในป่าชายเลน ดอนสัก สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่-ชาวบ้าน กว่า 100 ช่วยค้นหา หวั่นตกหล่มโคลนป่าชายเลน จะช่วยลำบาก

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 ม.ค. ที่ศาลาหมู่บ้าน หมู่ 4 ต.ดอนสัก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี นายวิชัย สมรูป ผอ.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ศูนย์กู้ภัยพิบัติจังหวัดสุราษฎร์ธานี สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 พร้อมสัตวแพทย์ประจำสำนัก อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะทะเลใต้ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ภาคใต้ และกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมตั้งศูนย์ปฎิบัติการเฉพาะกิจ “ช่วยเหลือช้างป่าหลงฝูง เข้าเขตป่าชายเลนดอนสัก กลับคืนอุทยาน” โดยวางแผนการค้นหาและช่วยเหลือช้างป่าที่พลัดหลงจากโขลง เข้ามาในบริเวณพื้นที่ป่าชายเลน เขต อ.ดอนสัก

นายวิชัย กล่าวว่า เนื่องจากมีชาวบ้านพบช้างพลายวัยรุ่นเพศผู้ น้ำหนักประมาณ 4 ตัน พลัดหลงจากป่าอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ระยะทาง 50 กิโลเมตร มาหากินในเขตป่าชายเลน พื้นที่หมู่ 3 ต.ไชยคราม อ.ดอนสัก เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา จึงได้ร่วมกันประชุมวางแผนอย่างรอบคอบ เนื่องจากพื้นที่เป็นพื้นที่ป่าชายเลน พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังไม่ให้ช้างเข้าไปในหมู่บ้าน เพื่อเร่งดำเนินการผลักดันให้ช้างป่ากลับคืนถิ่นที่อยู่อาศัยตามเดิม

นายวิทูรย์ เดชประมวลผล ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตวป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ช้างดังกล่าวเป็นช้างป่า 1 ในโขลงที่มีอยู่ 3 ตัว อาศัยอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น โดยเมื่อวันที่ 12 ม.ค. เจ้าหน้าที่อุทยานแก่งชาติทะเลใต้ พบว่าหลงเข้าไปในพื้นที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เมื่อทราบว่าเป็นช้างป่าในเขตพื้นที่อุทยานฯ จึงผลักดันออกมา และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้าติดตามเพื่อผลักดันกลับสู่ป่า แต่ช้างเปลี่ยนทิศทางเข้าไปในพื้นที่ป่าชายเลน

รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่และชาวบ้านประมาณ 100 คน ออกติดตามร่องรอย พบพืชสวนถูกกัดทำลายบริเวณป่าชายเลนหลังฟาร์มกุ้งบ้านพอด ต.ชลคราม อ.ดอนสัก และคาดว่าช้างอาจว่ายน้ำข้ามคลองบางแตน ไปยังบ้านหาดแก้ว ต.ชลคราม จึงใช้เรือหางยาวตระเวนตามแนวคลอง และใช้โดรนบินสำรวจแนวป่าชายเลน รวมถึงสวนของชาวบ้าน เนื่องจากช้างเคลื่อนย้ายแบบไม่มีทิศและรวดเร็ว ซึ่งทีมค้นหาจะใช้ 2 แนวทางคือ ผลักดันช้างโดยวิธีต้อนกลับทิศทางเดิมที่เข้ามา หรือใช้การจับย้ายส่งกลับ เนื่องจากเกรงหากช้างติดหล่มในป่าชายเลน จะทำให้การช่วยเหลือยากลำบาก เพราะมีน้ำหนักมาก เครื่องจักรที่จะช่วยยกได้เข้าไปไม่ถึง

ที่มา dailynews