‘บรรยง พงษ์พานิช’ นักการเงินชื่อดัง นายทุนพรรคกล้า งง พรรคกล้าได้อะไร ทุ่มขนาดนี้ เพื่อเลือกตั้งเขตเดียว ‘กรณ์ จาติกวณิช’ โผล่เมนต์โต้ยาวเหยียด

วันนี้ (31 ม.ค.) บรรยง พงษ์พานิช อดีตกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) นักการเงิน ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจการเงิน เกียรตินาคินภัทร (KKP) ได้เขียนถึงพรรคกล้า หลังจากได้รับเลือกตั้งมาเป็นอันดับที่ 3 ในการเลือกตั้งซ่อมเขต 9 หลักสี่-จตุจักร โดยระบุว่า

กล้าจริงไหมครับ?…..

เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นพรรค “กล้า” แสดงความกล้าหาญ โดยการทุ่มเทอนาคตพรรคทั้งหมด ลงไปในการเลือกตั้งซ่อมเขตเดียวเบอร์เดียว น่าเสียดายที่ความกล้าครั้งนี้ ไม่สัมฤทธิ์ผลใดๆเลย หวังแบ่งคะแนนสลิ่มมา แต่ต่อให้คะแนนรวมกันสองพรรค ยังสู้ผู้ชนะไม่ได้เลย …อ่านอะไรพลาดไหมครับ ประโยชน์เดียวที่ได้ คือได้ออกทีวีทุกช่อง แต่ไม่แน่ใจว่าเป็น positive หรือ negative publicity นะครับ

ปล.ขอโทษนะครับ ถ้าผมเข้าใจอะไรผิด ผมอ่อนหัดทางการเมืองครับ”

จากนั้น กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้า พรรคกล้า ได้เข้ามาแสดงความเห็นในสเตตัสดังกล่าวของ นายบรรยง ยืนยันได้ประโยชน์ทั้งในมุมของพรรค และในมุมของประชาชน โดยระบุว่า “สวัสดีครับพี่เตา หากมองว่า ต้องชนะเท่านั้นถึงจะได้ประโยชน์ ก็คงหมายความว่าพรรคอื่นๆทุกพรรคเว้นเพื่อไทยไม่ได้ประโยชน์อะไรเว้นได้ออกทีวีอย่างที่พี่ว่า ในระดับหนึ่งมองอย่างนั้นก็ได้

แต่พรรคกล้าเราส่งคุณอรรถวิชช์ลงเพราะเรามองว่า คุณอรรถวิชช์เป็น ส.ส. ที่ดีได้ให้กับคนกรุงเทพ โดยเฉพาะวันนี้วาระสภาเหลืออยู่นิดเดียว ไม่มีเวลามาเรียนรู้งาน เราไม่ยึดติดมากมายกับสถานะหรือตำแหน่งเลขาธิการพรรค เพราะเราเป็นพรรคเริ่มใหม่ต้องกล้าเสี่ยง กล้าเสนอคนที่ดีที่สุดของเรา ไม่อย่างนั้นกล้าๆกลัวๆส่งคนที่ไม่ใช่ เพื่อเล่นเซฟผมว่าไม่ใช่แนวทางของเรา เราเล่นแบบพรรคใหญ่ไม่ได้ครับ

และพอเป็นคุณอรรถวิชช์เรามีโอกาสเสนอความคิดของพรรคได้มาก คนรู้จักพรรคมากขึ้น และเราชนะพรรครัฐบาลคือพลังประชารัฐอย่างถล่มทลาย แม้พรรคก้าวไกลที่มี ส.ส. อยู่แล้ว ฯลฯ ก็สูสีกับเรา

ในมุมของพรรค เราได้ประโยชน์พอสมควรครับ

ส่วนในมุมประชาชน หากเราไม่ลงเขาจะไม่มีตัวเลือกนอกจากเลือกฝ่ายค้านหรือเลือกพรรครัฐบาล การที่มีพรรคกล้า แสดงให้เห็นว่า มีประชาชนไม่น้อยที่ไม่ต้องการพรรครัฐบาล และก็ไม่สนับสนุนพรรคฝ่ายค้าน แต่ต้องการทางเลือกอื่นที่เขามองว่าดีกว่า สรุปคืออย่างน้อยเราเป็นตัวเลือกให้กับคนกลุ่มนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่พอที่จะชนะก็ตาม

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เราถูกฝั่งขวาโจมตีตั้งแต่ระฆังยกแรก และก็ถูกฝั่งซ้ายแซะตลอดทาง แต่เราก็ยืนในจุดของเรา ยึดหลักปฏิบัตินิยม อะไรดีพร้อมสนับสนุน อะไรไม่ดีพร้อมต่อต้าน เสนอทางออกให้กับประเทศตามความคิดของเรา และเราก็ได้คะแนนมาจำนวนหนึ่ง (ชนะในจตุจักรด้วย แต่เสียดายคนออกมาใช้สิทธิน้อยกว่าหลักสี่เกือบครึ่ง)

ยาวไปหน่อยครับ แต่ผมรู้ว่า พี่เป็นคนพร้อมอ่าน”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรม

การการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เผยแพร่ยอดเงินบริจาคพรรคการเมือง ประจำเดือนมกราคม 2564 พบรายชื่อของ นายบรรยง บริจาคเงินให้พรรคกล้า จำนวน 1,000,000 บาท

ที่มา khaosod.