วันที่ 4 ก.พ.65 นางมณฑาทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี ชาว ต.กระบี่ใหญ่ อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน ในจังหวัดกระบี่ โดยเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ม.ค.65 นายสุเทพ (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี สามี อาชีพค้าขายไอติม เกิดป่วยกะทันหัน เจ็บหลัง แน่นหน้าอก เดินไม่ได้ มีอาการ ขาอ่อนแรง เนื่องจากก่อนหน้าที่สามีจะป่วยอาการดังกล่าว สามีได้เข้ารับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็มที่ 3 เมื่อวันที่ 10 มกราคม โดย เข็มแรกสามีได้ฉีดวัคซีน ซิโนเวค เข็ม สองแอสตร้าเซนเนก้า และเข็มที่สาม แอสตร้าเซนเนก้า
“หลังจากฉีดวัคซีนได้ 2 วัน สามีก็เกิดอาการป่วย จึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลกระบี่ หลังจากนั้นทาง รพ.กระบี่ ส่งตัวสามีของตนไปรักษาต่อที่ รพ.ใน จ.ภูเก็ต ทันที แต่ท้ายสุด สามีก็ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง เชื่อว่าสาเหตุมาจากการที่สามีฉีดวัคซีน เพราะก่อนหน้านี้ สามีตนเองมีสุขภาพแข็งแรง ไม่เคยเจ็บป่วยถึงขั้นนอน รพ.เลย”
นางมณฑาทิพย์ กล่าวอีกว่า การที่ตนมาร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อนั้น เพื่อต้องการให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาดูแลบ้าง ขณะนี้ต้องควักกระเป๋าใช้จ่ายเอง ทุกบาท ทุกสตางค์ ซึ่งก่อนหน้านั้นตนทราบว่าเงินช่วยเหลือกับผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน ทางภาครัฐให้การช่วยเหลือ แต่ว่าในส่วนสามีของตน ไม่มีหน่วยงานใดหันมาดูแลเลย
สิ่งที่สำคัญ ตอนนี้ตัวตนเอง ต้องดูแลสามี ไม่มีรายได้ และคนที่เป็นเสาหลัก หาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวก็คือ สามี แต่ว่าขณะนี้ต้องมาเป็นผู้ป่วยติดเตียงไม่สามารถทำงานได้ ที่ผ่านมารัฐบาล ได้ออกมาเชิญชวนให้ประชาชน ออกมาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด แต่เมื่อสามีตนซึ่งมีอาการ ข้างเคียงจากวัคซีน กลับไม่ได้รับการดูแล
นางมณฑาทิพย์ บอกด้วยว่า ตนได้ร้องขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์ดำรงธรรม จ.กระบี่ แต่ยังไม่ได้รับคำตอบจากหน่วยงานใดๆ จึงมาร้องขอความช่วยเหลือผ่านสื่ออีกทางหนึ่ง
ที่มา khaosod