สลด สาวขับเบนซ์ พุ่งเสยท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ พังยับ หนุ่มนั่งมาด้วยเสียชีวิตคาที่ กลางสะพานเอกมัยเหนือ เผย ถนนมืดมองไม่เห็น เจ้าหน้าที่เร่งช่วยผู้บาดเจ็บ
เมื่อเวลา 05.40 น. วันที่ 9 ก.พ.2565 พ.ต.ท.ไพรัตน์ คำลี สารวัตร(สอบสวน) สน.มักกะสัน รับแจ้งเหตุรถยนต์พุ่งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ บนสะพานเอกมัยเหนือ ข้ามถนนเพชรบุรี แขวงห้วยขวาง เขตบางกะปิ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์แผนกนิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบนกลางสะพานเป็นถนน 3 เลนทิศทางมุ่งหน้าแยกพระรามเก้าตัดถนนประดิษฐ์มนูธรรม ในช่องทางเลนขวาสุดพบรถยนต์ ยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น CLS250d สีขาว ทะเบียน 3กช6789 กรุงเทพมหานคร สภาพหน้ารถพังยับเยิน หลังคาเปิด ยางล้อซ้ายแตก มีเหล็กกันชนรถบรรทุกติดที่หน้ารถ
จากการตรวจสอบภายในรถที่เบาะนั่งหน้าซ้ายคู่คนขับพบผู้เสียชีวิตเป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุ 30-35 ปี สภาพสวมสูทสีดำ มีบาดแผลฉีกขาดที่ลำคอ และมีผู้บาดเจ็บอีกรายทราบชื่อ น.ส.พัชรฎา (ขอสงวนนามสกุล) ได้รับบาดเจ็บศีรษะบวมช้ำเกิดจากกระแทกกับกระจกหน้ารถ เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรเวช
นอกจากนี้ ภายในรถยังพบกระเป๋าสะพายสีน้ำตาล ข้างในมีเอกสารสมุดบัญชีธนาคารต่าง ๆ หลายเล่มระบุชื่อ นายชัยชนะ (ขอสงวนนามสกุล) และบัตรทำเนียบรัฐบาล ปี 2563 คณะทำงาน ระบุชื่อนายธีรพล ตกอยู่ภายในรถอีกด้วย จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ห่างไป 30 เมตร พบรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 77-8999 กรุงเทพมหานคร ของ บริษัทพลาสเท็ค อุตสาหกรรม จำกัด สภาพท้ายรถด้านขวามีรอยชนอย่างแรง กันชนท้ายหลุดออกไป โดยมี นายสุภาพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี เป็นคนขับ
จากการสอบถาม นายสุภาพ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถออกมาจากย่านคลองตัน ก่อนขับวนขึ้นสะพานเอกมัยเหนือ เพื่อมุ่งหน้าไป จ.นครปฐม ขณะรถวิ่งอยู่ในเลนซ้าย จู่ ๆ มีแรงกระแทกพุ่งชนท้ายรถอย่างแรงเสียงดังสนั่น จึงชะลอความเร็วประคองรถจอด ก่อนเดินไปดูก็พบรถเบนซ์ สีขาว พุ่งเสยท้ายรถ และมีหญิงสาวคนขับบาดเจ็บและชายนั่งเบาะหน้าข้างซ้ายเสียชีวิต
จากการสอบถามหญิงผู้บาดเจ็บ ให้การว่า ขณะขับรถขึ้นบนสะพานจากถนนเอกมัย มุ่งหน้าแยกพระรามเก้าตัดถนนประดิษฐ์มนูธรรม เพื่อไปต่างจังหวัด ถึงที่เกิดเหตุถนนค่อนข้างมืด จึงมองไม่เห็นรถบรรทุกที่ขับวิ่งอยู่ด้านหน้าอย่างกระชั้นชิด ทำให้รถเบนซ์พุ่งเสยท้ายอย่างแรงได้รับบาดเจ็บ ส่วนผู้ชายที่นั่งเบาะด้านซ้ายเสียชีวิต
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่แจ้งข้อหากับผู้ใดเพราะต้องสอบสวนผู้บาดเจ็บอีกครั้ง และทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อดูเหตุการณ์ ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ที่มา khaosod.