สาวแชร์ประสบการณ์เศร้า ฝังใจไม่ลืม 6 ปี ไม่กล้ามีความรักครั้งใหม่ ถูกแฟนทำร้าย จนเสียดวงตาฝ่ายชายใช้ชีวิตปกติ ไม่ยอมจ่ายค่าเยียวยา

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 9 ก.พ. น.ส.ณัฐณิชา ประมูลชัย หรือ น้องนัท อายุ 23 ปี โพสต์คลิปการใส่ดวงตาเทียมของตัวเองลงใน TikTok พร้อมเขียนข้อความว่า “ตอนแรกก็อายที่จะลง แต่ว่าคนที่อายไม่ควรเป็นเรา” ทำให้มีหลายคนเข้าไปให้กำลังใจและแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก

น.ส.ณัฐณิชา กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงที่ตนย้ายไปทำงานกับแฟนที่ภูเก็ต แล้วเราทะเลาะกันเรื่องกระเป๋า แค่หากระเป๋าไม่เจอ ก็มีปากมีเสียงกัน ตัวเราไม่ได้อยากทะเลาะด้วยจึงเดินขึ้นห้องมา แต่เขาเปิดประตูเข้ามาในห้อง ตอนแรกตนเข้าใจว่าเขาจะมาง้อ แต่พอเขาเข้ามาแล้วเตะ ต่อย ตบ ซ้อม ทำร้ายร่างกายเราและสุดท้ายก็ต่อยเข้าที่เบ้าตาซ้าย ภาพสุดท้ายที่ตนเห็นคือเลือดนองเต็มพื้น จากนั้นภาพมันตัดไปเลย


รู้สึกตัวขึ้นมาอีกทีอยู่ที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าต้องทำการผ่าตัดเอาดวงตาออกมาเนื่องจากว่าดวงตาข้างในเละ ต้องคว้านเนื้อข้างในออกมา แล้วเย็บส่วนที่เหลือเพื่อให้เลือดมันหยุดไหล ส่วนตัวผู้ก่อเหตุ ตอนนั้นทางครอบครัวเราก็เริ่มดำเนินคดีแล้ว เพราะทันทีที่ถูกทำร้ายร่างกายขนาดนี้ เราก็ไม่สนใจเขาอีกเลย ให้ครอบครัวเป็นฝ่ายเจรจา

ตอนนั้นผู้ก่อเหตุ ถูกจับขึ้นศาลเยาวชนในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่นาน ครอบครัวเขาก็ประกันตัวออกมา ศาลสั่งให้จ่ายค่าเยียวยา 270,000 บาท โดยฝ่ายผู้ก่อเหตุเจรจาขอผ่อนจ่ายเดือนละ 5,000 บาท ช่วงแรกก็จ่ายมาตามปกติ แต่หลัง ๆ ขาดการติดต่อ จ่ายไม่ครบ แม่ของตนจึงโทรไปแจ้งเรื่องนี้กับศาล แล้วศาลตามเรื่องให้ จนมาทราบภายหลังว่าตอนนี้เขากลายเป็นบุคคลหนีคดีไปแล้ว

เราคบกับผู้ชายคนนี้มา 1 ปี ช่วงที่ผ่านมาก็มีทะเลาะกันแล้วเขามีก็ทำร้ายร่างกาย แต่ครั้งนี้มันหนักที่สุด จนเราก็ไม่รู้สึกรักแล้ว อยากกลับบ้าน เรากลายเสียตาข้างซ้ายไปจนต้องใส่ดวงตาเทียม ช่วงแรกก็ลำบากมาก เพราะมันเจ็บ มันเคืองมาก กว่าที่เราจะยอมรับตัวเองได้ เรามีแม่ เพราะแม่ร้องไห้หนักกว่าเราอีก เรามีครอบครัว คนรอบข้างที่ซัพพอร์ต และคิดบวกตลอด เราจึงมีกำลังใจ

ที่ผ่านมา เรื่องนี้เป็นปมฝังใจมาตลอด 6 ปี ดิ้นรนด้วยตัวเองมาตลอด กลายเป็นคนไม่กล้ามีความรักเพราะกลัว แต่ว่าตอนนี้ ความรู้สึกมันก็ค่อยๆดีขึ้น จนตนกล้าที่จะมาความรักอีกครั้ง โดยแฟนคนปัจจุบัน เขาก็รู้ว่าเราเจออะไรมา เขาเป็นคนใจเย็นมาก เราจึงรู้สึกโชคดีที่มีเขา

ตอนนี้ไม่รู้สึกอะไรกับฝ่ายชายแล้ว แต่อยากให้เขามารับผิดชอบค่าเยียวยาที่เหลือจ่ายอีกประมาณ 90,000 บาท ตอนนี้คิดว่าเขาคงไม่ได้หนี ใช้ชีวิตปกติและชะล่าใจ คิดว่าเราไม่เอาเรื่องแล้ว แต่จริง ๆ เราอยากให้เขามารับผิดชอบค่าเยียวยาตามคำสั่งของศาล

ส่วนที่ออกมาแชร์เรื่องราวของตัวเอง ก็เพราะว่าอยากเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคน สำหรับใครที่มีแฟนหรือมีความรัก เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นความรุนแรงในครอบครัว และอยากฝากบอกกับฝ่ายชายว่า ให้ใช้ชีวิตให้ดี ๆ แล้วกัน ขอให้เราเป็นเคสสุดท้าย

ที่มา khaosod.