เมื่อเวลา 05.00 น. วันนี้ 10 ก.พ. ร.ต.ท.นวพล กาญจนสาธิต รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองกาญจนบุรีว่า เกิดเหตุคนร้ายในอาวุธปืนบุกปล้นร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น สาขาที่ 15901 ศูนย์ราชการกาญจนบุรี ถ.แม่น้ำแม่กลอง ต.ปากแพรก เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี โดยคนร้ายที่ก่อเหตุสวมเสื้อลายสก็อต ใช้เสื้อสีขาวผูกศีรษะเพื่อปิดบังใบหน้า และนุ่งกางเกงแบบรัดรูปคล้ายผู้หญิง ไม่สวมรองเท้า หลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีเข้าไปภายในซอยที่อยู่ฝั่งตรงข้าม โดยได้เงินสดไปประมาณ 7,000 บาทเศษ

หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้น พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.วศิน พลายศิริ รอง.ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ต.มารุต ฉัตรทัณฑ์ สว.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ออกติดตามหาตัวคนร้ายไปตามพื้นที่ต่างๆที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางในการหลบหนี แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่พบ

สำหรับร้านสะดวกซื้อที่ถูกคนร้ายปล้นในครั้งนี้ มีพนักงานคอยให้บริการกับลูกค้าเป็นหญิง 2 คน เบื้องต้นพนักงานทั้ง 2 ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน โดยให้เหตุผลว่าต้องรอให้ฝ่ายกฎหมายอนุญาตเสียก่อน แต่อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.วศิน พลายศิริ รอง.ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมพนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างการสอบปากคำพร้อมตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ที่บริเวณด้านหน้าและภายในเซเว่นอีเลฟเว่นอยู่

โดย น.ส.อารีรัตน์ ฉัตรทันท์ พนักงานร้าน ให้การกับเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้นว่า เวลาประมาณ 04.50 น. คนร้ายได้เดินเข้ามาในร้านเมื่อมาถึงเคาเตอร์คนร้ายได้ยื่นถุงพลาสติกสีขาวให้พร้อมกับสั่งให้ตนเอาเงินสดใส่เข้าไปในถุงพลาสติก โดยในถุงพลาสติกที่คนร้ายยื่นมาให้นั้นมีอาวุธลักษณะคล้ายกับอาวุธปืนพกสั้น ด้วยความกลัวตนจึงส่งเงินให้กับคนร้ายไป จำนวน 7,030 บาท หลังจากนั้นคนร้ายได้วิ่งหลบหนีเข้าไปภายในซอยที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชายอายุประมาณ 30-40 ปี สูงประมาณ 170 เซนติเมตร ผิวดำแดง มีรูปร่างอ้วนท้วม โดยใช้เสื้อสีขาวคลุมใบหน้า สวมเสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีขาวเทา และสวมกางขายาวรัดรูปสีน้ำตาล ไม่สวมใส่รองเท้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับซอยที่คนร้ายใช้หลบหนีนั้นเป็นซอยที่ค่อนข้างมืด เนื่องจากไม่มีไฟส่องสว่าง อีกทั้งยังสามารถหลบหนีได้หลายเส้นทาง และคาดว่าคนร้ายน่าจะจอดยานพาหนะเอาไว้ภายในซอย เมื่อก่อเหตุแล้วจึงวิ่งไปขับแล้วหลบหนีไป แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ที่มา .matichon.