ควันหลงวาเลนไทน์ สาวคนหนึ่งแชร์ประสบการณ์เดตที่จำไม่ลืมลงบนติ๊กต็อก ระบุข้อความว่า “เพื่อนไปกินข้าวกับผู้ชาย ค่าข้าว 300 บาทแล้วผู้ชายใช้คนละครึ่ง ให้เพื่อนเราโอนให้มันอีก 150 บาท” งานนี้ทำเอาชาวติ๊กต็อกถล่มคอมเมนต์เดือด พร้อมถกสนั่นถึงประเด็นดังกล่าว
โดยความคิดเห็นแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง บางคอมเมนต์มองว่าการให้โอนเงินคืน 150 บาทเท่ากับว่าผู้ชายไม่ได้ออกเงินเลยแม้แต่บาทเดียว เนื่องจากส่วนต่าง 150 เป็นเงินที่รัฐช่วยออก ดังนั้น การใช้สิทธิคนละครึ่งจะใช้เงินสดเพียง 150 บาท หากจะหารกันก็ต้องหารคนละ 75 บาทถึงจะยุติธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
“แฟนเราไม่มีคนละครึ่ง เราสแกนให้ตลอด เงินสดที่เติม เราจะหารกัน ส่วนสิทธิเรามองว่ามันฟรีเลยหารช่วยกันตรงเงินสดดีกว่า ถือว่าช่วย ๆ กันประหยัดไป” “ใช้สิทธิ 150 เสียสิทธิแต่ไม่เสียตังค์ไง ถ้าคิดมากเรื่องเสียสิทธิก็ควรจ่ายสด 300 บาท เพราะจ่ายจริง 150 บาท หาร 150 บาทกับเพื่อนจะออกคนละ 75 บาท เรารู้สึกว่ามันยุติธรรมกว่า”
ส่วนอีกฝ่ายมองว่าการหารเงินค่าข้าวคนละครึ่ง 150 บาทก็ถูกต้องแล้ว เพราะสิทธินี้เป็นสิทธิจากรัฐไม่ใช่เงินส่วนตัว ทำให้การใช้สิทธิ 1 ครั้งเป็นการเสียจำนวนเงินในสิทธิ แถมยังมองว่าสิทธิคนละครึ่งก็เป็นสิทธิของผู้ชายการหาร 150 บาทก็ถูกแล้ว หากต้องการความยุติธรรมจริง ๆ ควรตกลงกันไปเลยว่า มื้อนี้ใครจ่ายจะหารกันหรือจ่ายเฉพาะอาหารที่แต่ละคนทาน
“เรากับเพื่อนก็แบบนี้ กินหมูกระทะชุด 300 บาทให้เพื่อนใช้คนละครึ่ง เราก็ต้องให้เงินสดไป 150 บาท เพราะถือว่าเราไปใช้สิทธิเขา สิทธิเงินส่วนนั้น” “คนละครึ่งก็คือเงินนะคะ”
แถมเรื่องราวดังกล่าวยังถูกแชร์ไปไกลกลายเป็นกระแสไวรัลในทวิตเตอร์ที่มีการรีทวิตมากกว่า 48,500 ครั้งอีกด้วย “ตัดเรื่องหญิงชายออกไป ใครทำแบบนี้ก็น่าเกลียด นี่ยังไม่เคยทำกับเพื่อนเลย ต่อให้เราใช้คนละครึ่ง บัตรส่วนลด หรือใช้คะแนนสะสม ก็ต้องหารจากราคาที่ลดแล้วดิ ถ้ากังวลเรื่องเสียสิทธิก็ไม่ต้องใช้ เก็บสิทธิไปใช้กับอย่างอื่นสิ”
“กรณีนี้ มันจะเหมือนผู้ชายเอาสิทธิมาแลกเป็นเงินสด 75 บาทด้วย ไม่ใช่การใช้สิทธิอย่างถูกต้อง เพราะตามจริงถ้าใช้คนเดียว (แยกบิลคนละ 150) ผู้ชายต้องจ่าย 75 บาท รัฐออก 75 บาท แต่อันนี้ดันจ่ายรวมแล้วมาเรียกเก็บกับผู้หญิง”
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดสาวเจ้าของโพสต์ ระบุว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริง เป็นเพียงแค่ POV (เรื่องสมมุติ) เพื่อดูความคิดเห็นของชาวเน็ตว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับประเด็นดังกล่าวหรือไม่
ที่มา khaosod