เริ่มแล้ว! ฝ่ายค้านซักฟอกรัฐบาล หมอชลน่าน ซัด บิ๊กตู่ ตัวปัญหา ทำประเทศ “แพง จน พัง” ทั้งแผ่นดิน แนะ ยุบสภา-ลาออก หยุดทรมานประชาชน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 ก.พ.2565 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อครม. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภา ผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แถลงเปิดญัตติว่า สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของประเทศขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการชีวิตของประชาชนอย่างรุนแรง ข้าวของแพง ค่าแรงถูก สืบเนื่องจากการบริหารที่ล้มเหลงผิดพลาดทุกด้านของรัฐบาลนี้ เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาตรการแก้ปัญหากลับไม่ชัดเจน การจัดหาวัคซีนล่าช้า ไร้ประสิทธิภาพ ต่อมาเกิดการแพร่ระบาดของโรคระบาดในสัตว์ และเกิดเชื้ออหิวาต์ในสุกร แต่รัฐบาลกลับปกปิดข้อมูลการระบาดของโรค และเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนรายใหญ่
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า มีการนำงบประมาณไปแลกเปลี่ยนใช้จ่ายแก้ปัญหาในการกระทำที่ผิดพลาดของนายกฯ กรณีเหมืองทองอัครา การแก้ปัญหาประมงที่ล้มเหลว การปฏิรูปการเมืองที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ และยุทธศาสตร์ชาติ ไม่มีความคืบหน้า เพราะรัฐบาลขาดความจริงใจ วิสัยทัศน์ผู้นำที่ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก การบริหารส่อทุจริต หลายเรื่องส่งผลกระทบต่องบประมาณ จากรายงานของวุฒิสภา และหน่วยงานภายนอกพบว่า รัฐบาลนี้มีทุจริตสูงมาก
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ญัตตินี้ไม่ต้องมีมติ มีลักษณะเหมือนกระทู้ แต่ไม่ใช่กระทู้ เป็นการซักถามข้อเท็จจริง และเสนอต่อครม. ไม่ได้มุ่งหมายต่อรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง เพื่อประโยชน์ของประชาชนที่ต้องการรู้ว่าทำไมตอนนี้พวกเขามีความทุกข์ลำบากยากแค้น ถือเป็นญัตติแพงทั้งแผ่นดิน จนพังทั้งแผ่นดิน นี่คือการทำงานร่วมกันเพื่อบ้านเมือง เพราะเราจะเสนอแนะรัฐบาลเพื่อนำไปแก้ไขให้กับประชาชน
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ความล้มเหลววิกฤตทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นภาพการสร้างธุรกิจการเมือง สภาเสื่อม มีทั้งกล้วยทั้งฉีดวัคซีน 20-30 ล้าน ที่มีข่าวอยู่ในสังคมขณะนี้เป็นข้อสงสัยที่ท่านต้องตอบ ฝากถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ว่าทำไมจึงยอมให้เกิดภาพอย่างนี้ ทำไมต้องแจกกล้วย เพราะทำให้การปฏิรูปการเมืองล้มเหลว ส่งผลกระทบไปทุกเรื่อง
ข้อผิดพลาดอีกเรื่องที่ต้องพูดคือ ทำไมท่านต้องออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประมง พ.ศ.2558 ท่านบอกออกเพื่อแก้ใบเหลืองจากเรื่องไอยูยู หรือประมงที่ทำผิดกฎหมาย แต่กลับก่อเกิดปัญหาอย่างมาก เพราะไร้การรายงานควบคุมตรวจสอบ ผู้ประกอบการได้รับความเสียหายปีละ 2 แสนล้านบาท ถ้าใช้สมองสติปัญญาอย่างรอบคอบคิดว่าท่านคงไม่กล้าออกพ.ร.ก.นี้ เพราะไม่คุ้มแต่ยังส่งผลกระทบมาถึงปัจจุบัน แม้ว่าพี่น้องสมาคมชาวประมงจะขอแก้กฎหมาย แต่ถูกตีตกทั้งหมด นายกฯไม่ยอมเซ็นเข้าสู่สภา ทั้งหมดนี้ก่อให้ประเทศเกิดปัญหาแพงทั้งแผ่นดิน จนทั้งแผ่นดิน พังทั้งแผ่นดิน จนเกิดจากวิกฤตทางการเมือง
“เหตุของปัญหาอยู่ที่การเมือง ท่านยึดอำนาจเข้ามาสู่อำนาจ มุ่งสืบทอดอำนาจด้วยการวางโครงสร้างรัฐธรรมนูญ การใช้อำนาจหลังได้อำนาจก็ไม่ชอบธรรม เอื้อประโยชน์ ไม่เห็นหัวประชาชน ถ้าท่านใช้อำนาจถูกต้อง แพง จน พัง จะไม่เกิดขึ้น ประชาชนจะไม่เดือดร้อนขนาดนี้ ระบบการตรวจสอบการใช้อำนาจบิดเบี้ยว บิดเบือน โดยเฉพาะสภาที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน ก็ทำงานได้ยากลำบาก ทั้งที่การตรวจสอบการควบคุมการบริหารเป็นหน้าที่ของสภา” นพ.ชลน่าน กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งปี 62 ท่านใช้กลไกที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญ จัดการรวบรวมทุกวิถีทางทำให้ท่านได้เสียงถึง 275 เสียง รัฐธรรมนูญเปิดโอกาสบัตรใบเดียวให้พรรคขนาดเล็กเข้ามาในสภา ท่านก็เชื้อเชิญเข้ามาด้วยกลไกทำให้หลายพรรคเล็กต้องจำยอม แต่นั่นคือกับดักของการเข้าสู่อำนาจ เสมือนดีแต่คือการทำลายล้างประชาธิปไตย เพราะการที่ท่านพยายามรวบรวมเข้ามา และยุบพรรคที่เขาได้ส.ส.เยอะ ถ้าไม่เรียกว่าทำลายล้าง จะเรียกว่าอะไร สิ่งเหล่านี้คือต้นเหตุของปัญหา
นอกจากนี้ การประชุมตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.63 องค์ประชุมฝ่ายรัฐบาลไม่เคยถึงกึ่งหนึ่งของที่ประชุมคือ 238 เสียง เมื่อองค์ประชุมไม่เคยถึง จึงเกิดวิกฤตขัดแย้งแบ่งอำนาจกันในพรรคร่วมรัฐบาล ผลพวงที่แย่ที่สุด คือเราได้ผู้บริหารที่ไร้ความสามารถแย่ที่สุดเข้ามาบริหาร เราได้นักบริหารที่เป็นปัญหาจนสร้างปัญหาแพง จน พัง สิ่งจำเป็นที่สุดที่ฝ่ายค้านต้องทำ คือพยายามบอกว่าองค์ประชุมเป็นหน้าที่ของรัฐบาล เพราะเป็นเสียงข้างมาก ระบบรัฐสภาคือระบบเสียงข้างมาก เคารพสิทธิเสียงข้างน้อย แต่ฝ่ายค้านกลับถูกกล่าวหาว่าไม่ทำหน้าที่แต่เราไม่ถือสา
“ถามว่าท่านจะยอมให้แก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ ผมมั่นใจว่าท่านไม่แก้แน่ การพิจารณากฎหมายหากเป็นของฝ่ายค้าน จะถูกอุ้มหายไปดองไว้ก่อน 60 วัน ท่านต้องแก้ปัญหาตรงนี้ ปัญหาเชิงโครงสร้างอยู่ในกระดาษ แต่พฤติกรรมการบริหารเป็นของนายกฯ ผมไม่โทษรัฐมนตรีท่านอื่น เพราะนายกฯ เป็นคสช.มา จึงใช้กลไกพิเศษบริหารราชการแผ่นดินมาตลอด ในชีวิตการเป็นผู้บริหาร ท่านใช้อำนาจพิเศษที่เรียกว่าเผด็จการมาตลอด
ถ้าท่านไม่แก้ตรงนี้ บ้านเมืองนี้จะอยู่ต่อไปไม่ได้ แต่จะพัง ถ้าไม่แก้ที่ต้นเหตุคือตัวนายกฯ หยุดให้ประเทศนี้เลือดไหลออก หยุดทรมานประชาชน สร้างโอกาสให้เขาลืมตาอ้าปากได้ สิ่งที่จะหยุดได้คือตัวนายกฯ ผมมั่นใจ และสัมผัสได้ว่าท่านรักประเทศ และประชาชน แต่ท่านรักไม่ถูก วิธีการท่านไม่ชอบ แต่จิตใจท่านรัก จึงขอให้ท่านประกาศว่าขอออกจากตำแหน่งนี้ จะด้วยการลาออกก็ได้เพื่อแก้ปัญหาได้รวดเร็ว หรือประกาศยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน นั่นคือการแก้ปัญหาโดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แพงจนพังทั้งแผ่นดินก็จะแก้ปัญหาได้” นพ.ชลน่าน กล่าว
ที่มา khaosod