“วิษณุ” เย้ยใส่ “ธีระชัย”-พวก ยื่นศาลปกครองค้านกู้เงิน 5 แสน ล. ช้าไป ชี้เลยขั้นตอนของมติ ครม.แล้วศาลปกครองเพิกถอน พ.ร.ก.ไม่ได้ ปราม ส.ส.อย่าพูดมาก อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบฯ 65 หน.ทีม ศก.ปชป.ดักคอรัฐใช้กู้เงิน 5 แสน ล. ต้องโปร่งใส พท.จับตารัฐขยายเพดานหนี้ หลังก่อหนี้มโหฬาร จวกรู้จักแต่กู้ หันไปทางไหนก็มีแต่หนี้ ก้าวไกลฉะมีแต่คนโง่ที่ผลาญงบแบบเดิมๆ “หมวดเจี๊ยบ” เย้ย “นายกฯฉลาดทิพย์” บริหารวัคซีนสุดห่วย

จากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการรวบรัดออก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท โดยยอมปรับลดลงมาจากวงเงินเดิม 7 แสนล้านบาท ล่าสุดนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า คำร้องที่มีผู้ยื่นให้ศาลปกครองสูงสุดพิจารณามีคำสั่งเพิกถอนมติ ครม.ดังกล่าว ถือว่าช้าไปเพราะเลยขั้นตอนมติ ครม.ไปแล้ว

“วิษณุ” เย้ยค้านกู้ 5 แสน ล. ช้าไป

เมื่อวันที่ 26 พ.ค. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง และคณะแกนนำกลุ่มสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุดให้พิจารณา และมีคำสั่งเพิกถอนมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 พ.ค.2564 ที่เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้ออกร่าง พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาท และมติ ครม. เมื่อวันที่ 7 เม.ย.2563 ที่เห็นชอบพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาชี้แจงแล้วว่ามีการตรวจสอบตั้งแต่ต้นแล้ว ยังคิดไม่ออกว่าเกี่ยวข้องอะไรกับศาลปกครอง เพราะรัฐธรรมนูญบัญญัติชัดเจนว่าต้องไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ และเรื่องมันเกินมติ ครม.ไปแล้ว เมื่อเป็น พ.ร.ก.แล้วศาลปกครองเพิกถอนไม่ได้

ปิดปากสภาฯอย่าพูดกันมาก

นายวิษณุกล่าวอีกว่า หากเป็นมติ ครม.ศาลปกครองสามารถเพิกถอนได้ เลขาคณะกรรมการกฤษฎีกาชี้แจงว่ากระบวนการและขั้นตอนถูกต้องทุกอย่าง สำหรับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 รัฐธรรมนูญมาตรา 143 กำหนดต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 105 วัน ทางที่ดีควรพิจารณาให้เสร็จโดยเร็ว โดยใช้วิธีลดความแออัด ใครที่ไม่ได้พูดก็ไม่ต้องไปนั่งในห้องประชุม เข้าไปเฉพาะเวลานับองค์ประชุม แม้จะมีการให้ผ่อนผันให้ถอดหน้ากากได้ แต่ไม่ควรถอด เหลืออยู่คำเดียวคืออย่าพูดมาก

ให้มั่นใจมีงบฟื้นฟูวิกฤติโควิด

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณปี 2565 กรอบวงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท รัฐบาลตั้งวงเงินงบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อฉุกเฉินและจำเป็น เพื่อการเยียวยาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ยังมีงบฯปกติสำหรับดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะช่วยเยียวยา ฟื้นฟูผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดได้เช่นกัน รวมถึงการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ที่ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลมีวงเงินเตรียมพร้อมสำหรับดำเนินมาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิดอย่างเหมาะสม

“จุรินทร์” เชื่อ ปชป.พร้อมยกมือให้

ที่อาคารบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร จ.ปทุมธานี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เชื่อว่า ส.ส.พรรคไม่น่ามีปัญหากับการสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2565 เพราะถือเป็นกฎหมายสำคัญของรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาลจำเป็นต้องสนับสนุน มิฉะนั้นจะเกิดผลกระทบทางการเมืองตามมา ถ้าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ รัฐบาลต้องลาออกหรือยุบสภา เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจะมี ส.ส.พรรคบางคนโหวตสวนอีก นายจุรินทร์ตอบว่า ไม่คิดว่ามีปัญหาอะไร และไม่จำเป็นต้องกำชับ ส.ส.ของพรรคทุกคนรู้อยู่แล้วว่าต้องปฏิบัติตามมติพรรค

จี้รัฐใช้กู้เงิน 5 แสน ล. ต้องโปร่งใส

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มีข้อเสนอถึงรัฐบาลในการใช้เงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ควรดำเนินการอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ ใช้งบฟื้นฟูให้ตรงจุด สร้างความเชื่อมั่น ต่อประชาชนว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ถูกนำไปใช้อย่างคุ้มค่า ลดคอขวดเรื่องการเบิกจ่าย กระทรวงการคลัง ต้องชี้แจงถึงผลลัพธ์การเบิกจ่ายงบให้รัฐสภาและประชาชนทราบ รัฐบาลต้องช่วยให้ประชาชนเข้าถึงความช่วยเหลืออย่างแท้จริง เช่น การเจรจากับธนาคาร พาณิชย์ พักต้นพักดอกเบี้ยเงินกู้ ปัจจุบันพบว่ายังมี ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากภาระดอกเบี้ยที่สูงอยู่ ต้องหันไปพึ่งการกู้เงินนอกระบบ ทำให้หนี้สิน ครัวเรือนเพิ่มขึ้น ไม่เป็นไปตามจุดประสงค์ที่รัฐบาลวางไว้

พท.จับตารัฐขยายเพดานหนี้

ที่พรรคเพื่อไทย นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รอง เลขาธิการพรรค และผู้อำนวยการศูนย์นโยบายพรรค เพื่อไทย แถลงว่า สถานการณ์หนี้สาธารณะปัจจุบันหากรวมเงินกู้ 5 แสนล้านบาท ณ สิ้นเดือน ก.ย.2564 คาดว่าจะอยู่ที่ 9.2 ล้านล้านบาท จีดีพีอยู่ที่ 16.02 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 57.4 แต่จำนวนนี้ไม่รวม สถานการณ์โควิด-19 ระลอก 3 ที่ยาวเกินคาด สร้างความเสียหายประมาณเดือนละ 1 แสนล้านบาท กู้ชดเชยขาดดุลงบฯ 65 อีก 7 แสนล้านบาท และจีดีพี ที่ต่ำกว่าประมาณการ หากรวมทั้ง 3 ข้อนี้ หนี้สาธารณะ ต่อจีดีพีจะอยู่ที่ร้อยละ 62-63 ทะลุเพดานทันทีในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จึงต้องจับตาว่ารัฐบาลจะขยาย เพดานหนี้เป็นร้อยละ 65-70 หรือไม่ มีแนวโน้มหากปล่อยรัฐบาลชุดนี้ไปเรื่อยๆ เป็นสัญญาณอันตรายยิ่งต่อการสร้างหนี้นอกระบบงบประมาณ

จวกหันไปทางไหนก็มีแต่หนี้

นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากเดิมรัฐบาลจะออก พ.ร.ก.กู้เงิน 7 แสนล้านบาท แต่พอถูกตำหนิอย่างหนักจากทุกฝ่ายตามฉายาดีแต่กู้ จึงปรับลดลงมาเหลือ 5 แสนล้านบาท ขณะที่การจัดเก็บรายได้ไม่เป็นไปตามเป้าอีกกว่า 2 แสนล้านบาท ทำให้หนี้สาธารณะทะลุ 9 ล้านล้านบาท พุ่งทะลุเกินร้อยละ 60 ของจีดีพี เพราะนายกฯรู้จักแต่จะกู้ ไม่รู้จักการหารายได้ รวมถึง หนี้ครัวเรือนพุ่งทะลุเกินร้อยละ 90 แล้ว หนี้เสียธนาคาร เพิ่มมากขึ้น การบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์มองไปทางไหนก็เห็นแต่หนี้เต็มไปหมด แต่ไม่เห็นทางออกของประเทศที่จะพัฒนาต่อไปได้ หาก พล.อ.ประยุทธ์ยังคงดื้อรั้นจะบริหารประเทศอยู่ ประเทศไทยจะเสียโอกาสไปเรื่อยๆ ในที่สุดคงพัฒนารั้งท้ายในอาเซียน

ก้าวไกลฉะมีแต่คนโง่ผลาญงบ

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า อยากให้ประชาชนจับตาดูการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2565 และ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ยืนยันเราไม่ได้คัดค้านการกู้เงินในสถานการณ์วิกฤติ แต่ผลของเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ในปีที่ผ่านมา สะท้อนว่าการ กู้เงินมาให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์บริหาร ไม่ได้อะไร นอกจากภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้น 1 ล้านล้านบาท อนุมัติไป แล้วเกือบเต็มวงเงิน แต่ยังไม่เห็นผลสัมฤทธิ์ ทั้งอุปกรณ์ การแพทย์หรือวัคซีน ด้านการเยียวยาเราเห็นแต่มาตรการ ช่วยประชาชนระยะสั้น ไม่เห็นการพยุงการจ้างงานในระยะยาว เรากำลังจะเห็นสิ่งที่เคยทำมาใน พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท อีกครั้ง ในการกู้เงินครั้งใหม่ 5 แสนล้านบาท คงมีแต่คนโง่เท่านั้นที่ทำแบบเดิมๆ แล้วคาดหวังว่าจะไม่ล้มเหลวในแบบเดิม ส่วนงบประมาณ ปี 65 งบด้านสวัสดิการ ถูกปรับลดอย่างน่าเป็นห่วง ขณะที่การจัดซื้ออาวุธยังเพิ่มขึ้น ขอฝากไปถึงส่วนราชการ ที่มีหน้าที่จัดสรรสวัสดิการให้ประชาชน และ อปท. ต่างๆที่ถูกปรับลดงบอย่างไม่เป็นธรรม ให้อุทธรณ์งบ เข้ามาที่กรรมาธิการงบประมาณมากๆ เพื่อทำการตัดงบที่ไม่จำเป็น ไปเติมงบที่ใช้ดูแลชีวิตประชาชน

“เจี๊ยบ” เย้ย “นายกฯฉลาดทิพย์”

ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ทราบหรือไม่ว่าการประกาศเลื่อนนัดฉีดวัคซีนให้ประชาชนของหน่วยงานต่างๆ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาล สาเหตุที่วัคซีนโควิดขาดแคลนเป็นเพราะรัฐบาลไม่กระจายความเสี่ยงในการจัดหา ไปฝากความหวังไว้ที่บริษัทเพียงเจ้าเดียว ทำให้ปั่นป่วนกันไปหมดทั้งประเทศ แม้แต่ ส.ส.ในพรรคร่วมรัฐบาลเอง ยังออกมาตั้งโต๊ะแถลงโวยวายเรื่องการกระจายวัคซีนไม่ทั่วถึง ที่น่าห่วงคือนายกฯชอบทำอะไรกลับหัวกลับหาง เรื่องที่ควรกระจายอำนาจอย่างเช่นวัคซีน ดันมาผูกขาด แต่เรื่องที่สมควรรวมศูนย์อำนาจ เช่น แอปพลิเคชันลงทะเบียนฉีดวัคซีนกลับปล่อยให้หน่วยงานต่างๆผลิตแอปกันเองให้ประชาชนไปลงทะเบียนเข้าคิว จนชาวบ้านสับสนไปหมด บริหารจัดการวัคซีนได้เละเทะสมกับเป็นรัฐบาลของ “นายกฯฉลาดทิพย์” จริงๆ

“เจ๊หน่อย” ไขลาน รบ.สร้างเชื่อมั่น

ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า มีความกังวลต่อการจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯปี 2565 ควรต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมต่อสถานการณ์ และผลตอบแทนทางเศรษฐกิจจากการใช้งบประมาณ การจัดทำงบประมาณขาดดุลสูงถึง 7 แสนล้านบาท ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์วิกฤติ รายจ่ายบางประเภทยังคงถูกจัดสรรให้ทั้งที่ไม่ใช่ความจำเป็นเร่งด่วน เห็นว่าภารกิจสำคัญที่รัฐบาลต้องทำให้สำเร็จโดยเร็ว คือการสร้างความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลสามารถควบคุมได้ ให้ประชาชนมั่นใจออกมาประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ต้องมีนโยบายเน้นการลงทุนภาครัฐ เพื่อสร้างฐานรายได้ใหม่หลังโควิด เช่น การท่องเที่ยว การสาธารณสุข โดยพรรคจะทำหน้าที่ตรวจสอบการจัดทำงบประมาณปี 2565 อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การใช้งบประมาณเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน

“ลุงป้อม” ชวนคนไทยปลูกต้นไม้

ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ร่วมกิจกรรมเนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ 2564 โดยร่วมปลูกต้นสัก 1 ต้น พร้อมเชิญชวนคนไทยทั่วประเทศร่วมกันปลูกต้นไม้ 1 คน 1 ต้นกล้า เพิ่มผืนป่าให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้จัดเตรียมกล้าไม้จากหน่วยงานเพาะชำกล้าไม้สังกัดกรมป่าไม้ ทั่วประเทศไว้บริการให้กับประชาชน

ที่มา:thairath