วันที่ 27 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจังหวัดเชียงราย ประกอบด้วย ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ฝ่ายปกครอง ตำรวจและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้นำกำลังพลเข้าร่วมบูรณาการกวาดล้างแรงงานต่างด้าว ในพื้นที่ชายแดนตั้งแต่อำเภอแม่สาย ลงมาถึงอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายและแรงงานต่างด้าว ตามคำสั่งของคณะกรรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงราย ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19

โดยจากการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในอำเภอแม่ฟ้าหลวง โดยเฉพาะบ้านพญาไพรเล่าจอ หมู่ 6 ต.เทอดไทย ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงติดแนวชายแดน พบแรงงานต่างด้าวผิดกฏหมายจำนวน 4 คน และ ผู้ต้องหา เสพยาเสพติด 1 คน จึงได้นำตัวส่ง สภ.แม่ฟ้าหลวงเพื่อดำเนินคดีต่อไป ในส่วนพื้นที่อำเภอแม่สายเจ้าหน้าที่ตรวจค้นหอพักไม่มีชื่อ อาคารเลขที่ 576/6 ห้องพักหมายเลข 6 บ.ป่ายาง หมู่ 6 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จว.ช.ร. ตรวจพบ นาง SHAUK LUU สัญชาติเมียนมา อายุ 43 ปี เป็นผู้พักอาศัย จากการตรวจสอบหนังสือเดินได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.62 และได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรฯ ถึงวันที่ 7 ม.ค.63 ซึ่งเกินกว่ากฏหมายกำหนด จากการสอบถามผู้ถูกจับกุม ให้การรับสารภาพว่า ตนได้อยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่าที่ได้รับอนุญาตจริง จึงควบคุมส่งให้กับ จนท.ตม.เชียงราย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน

อย่างไรก็ตามนอกจากการจับกุมแรงงานต่างด้าวในการลงพื้นที่ของนายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รอง ผวจ.เชียงราย ที่โรงพยาบาลแม่สาย เพื่อประชุมวางแผนร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย สาธารณสุขอำเภอแม่สาย โรงพยาบาลแม่สาย รพ.สต.ทุกแห่งในพื้นที่ สภ.แม่สาย และฝ่ายปกครองอำเภอแม่สาย เพื่อบริหารจัดการกลุ่มผู้ติดเชื้อโรค Covid-19 รายใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าวในพื้นที่อำเภอแม่สาย

โดยมีรายงานว่าพบคลัสเตอร์ใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าวในโกดังกระเทียม พื้นที่บ้านเหมืองใต้ ม.1 ต.แม่สาย และโกดังสินค้าในพื้นที่บ้านเหมืองแดง ม.2 ต.แม่สาย อ.แม่สาย อีกหลายแห่งในพื้นที่ชายแดนแม่สาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจคัดกรองเชิงรุก พบว่า แรงงานต่างด้าวในโกดังต่างๆ ดังกล่าว ติดเชื้อโควิดทั้งหมด 37 ราย ซึ่งรอผลยืนยันจากทางสาธารณสุขเชียงรายอีกครั้งหนึ่ง

แต่ทางคณะทำงานได้เตรียมแผนที่จะนำผู้ติดเชื้อทั้งหมดออกจากพื้นที่มารักษาใน รพ.แม่สาย โดยทาง สสจ.เชียงราย จะประสานให้โรงพยาบาลข้างเคียง ทั้งโรงพยาบาลแม่จันและโรงพยาบาลเชียงแสน ได้รับให้บริการคนไข้ปกติทั่วไป (ที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรค Covid-19) ของโรงพยาบาลแม่สายแทน ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงสูงทั้งหมดจะให้กักตัวในโรงงาน/ที่พักของตนเอง โดยจะประสานกับทางหอการค้าเพื่อดำเนินการสนับสนุนเรื่องอาหารแก่กลุ่มผู้ที่ถูกกักตัวเฝ้าระวังต่อไป

ที่มา MATICHON