พิธีกรสาวคนเก่ง ได๋ ไดอาน่า จงจินตนาการ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจบงาน เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดขอบเปลือกตา “OCuSOFT” (อ๊อกคิวซอฟท์) ณ สยามพารากอน เมื่อวันก่อน(23 กพ65) ถึงสถานการณ์ของผู้ติดโควิดที่อยู่ภายใต้การดูแลของเพจ “เราต้องรอด” ที่ตนเองเป็น ผู้ร่วมก่อตั้ง

“ต้องบอกว่าสถานการณ์ ถ้าเราดูจากตัวเลขมันมากขึ้นกว่าทุกๆวันที่ผ่านมา จริงๆถ้าเราลองดูนะคะ จะเห็นว่ารอบก่อนตัวเลขที่มากที่สุดคือวันที่ 13 สิงหาคม 2564 ตอนนั้นตัวเลขยังไม่เยอะเท่ากับตอนนี้

เพราะฉะนั้นจะบอกว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่น่าเป็นห่วงมากๆ แต่ภายใต้สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง ก็ยังมีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกอุ่นใจได้บ้าง คือจำนวนผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว มีมากกว่ารอบก่อน แล้วอัตราที่เป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตน้อยกว่ารอบก่อนเยอะมาก”

เห็นยอดขึ้นเร็วตกใจไหม? “ไม่ตกใจกับยอดที่ขึ้นมาเร็ว มันเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าพอถึงเวลาที่เราในฐานะคนหน้างานที่จะต้องรับมือกับสถานการณ์จริงๆมันก็คอขวดค่ะ อย่างตอนที่เราขึ้นเวที หลังบ้านก็กำลังมีปัญหาเรื่องของการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์

เพราะก่อนหน้านี้ทุกเคสจะสามารถขอยาฟาวิพิราเวียร์ได้ แต่ปริมาณยามีจำกัด เพราะฉะนั้น เราต้องพยายามทำความเข้าใจกับผู้ป่วยว่าหากเป็นผู้ป่วยที่มีอาการไม่ได้มากนัก ก็จะให้ดูแลตัวเองเบื้องต้นไปก่อน เป็นไข้ก็กินยาแก้ไข้ เจ็บคอกินยาแก้เจ็บคอ แล้วก็กินยาวิตามินซี ฟ้าทลายโจร ดูแลตัวเองเบื้องต้นไปก่อนในระหว่างรอการประสานงาน

เพราะว่าในบางครั้งในการที่จะประสานงานไปที่หน่วยงานต่างๆ ต้องเข้าใจว่า 2-3 วันมานี้ ปริมาณเคสเยอะมาก เพราะฉะนั้นอาจจะไม่ทันท่วงที อย่ารอนะคะ อยากให้ทุกคน ถ้ามีอาการให้ทานยาดักไว้ก่อน แล้วก็อย่าหลอกตัวเอง

ถ้าสมมุติมีอาการห้ามคิดเด็ดขาดเลยว่าฉันไม่เป็นหรอก ให้คิดไว้เลยว่าเป็นแน่นอนเพื่อที่จะได้ป้องกันตนเอง จริงๆอยากจะบอกว่า 7 ถึง 10 วันที่ผ่านมานี้ ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อน เพื่อนของเพื่อน พี่น้องสื่อ คนในวงการ ที่ติดแล้วเขามีความกังวลว่า เอ๊ะ ฉันอาจจะไม่ได้ติดจริงก็ได้ เดี๋ยวลองไปตรวจโควิด rt pcr ก่อน พอ atk ขึ้น2ขีดปุ๊ป ไป rt pcr ก่อน แล้วระหว่างที่รอผล rt pcr ก็จะใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมงใช่ไหมคะ

ระหว่างนี้ถ้าเราเริ่มสตาร์ทกินยาก่อนมันจะดีกว่าไหม เพราะฉะนั้นอยากจะบอกทุกคนว่า ถ้ามีอาการอย่ารอ กินยาบรรเทาอาการของตัวเองไปก่อน ถ้าสมมุติว่าเราไม่ได้มีโรคประจำตัวอะไรมาก และส่วนมากจะสามารถหายเองได้ภายใน3-5วัน แต่ถ้ามีโรคประจำตัวหรือว่าไม่เริ่มทานยา มันก็จะมีโอกาสที่มันจะรุนแรงกว่าเดิมได้”

ปัญหาที่เจอส่วนใหญ่ตอนนี้คืออะไร? “น่าจะเป็นปัญหาเรื่องคอขวด อย่างที่พี่น้องสื่อมวลชนก็รู้ว่าเรายังไม่เคยหยุดทำงานเลยตั้งแต่ 25 เมษายนปีที่แล้ว จนถึงตอนนี้ เพราะฉะนั้นระบบทุกอย่างที่เราเซ็ตเอาไว้อยู่แล้ว มันก็คือจากสแตนด์บายก็กลับมารันตามปกติ เพียงแต่ว่าปริมาณที่เราคาดการณ์ไว้พอมาจริงๆโหมันมาหนักเลย

เพราะว่า “เราต้องรอด” สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการยาสำหรับทำ home isolation บางคนเขาก็กลัว เขาจะรับผิดชอบต่อสังคม เขาก็ไม่กล้าออกจากบ้าน พี่จะให้หนูออกไปซื้อยาได้ยังไงก็กลัวจะเอาไปติดกับคนอื่น ก็โอเคงั้นอยู่บ้านเดี๋ยวเราจะส่งยาให้

สำหรับยาสามัญประจำบ้านที่บางคนไม่ได้ซื้อติดไว้ อันนี้เราก็ต้องช่วยส่งให้ เราก็จะมีหน่วยงานของ กทม. เราก็จะติดต่อโดยตรงที่จะประสานงานในการทำเอกสารแล้วก็รายละเอียดต่างๆเพื่อขอทำ home isolation ให้กับผู้ป่วย”

ศูนย์พักคอยมันล้นไปขนาดไหนแล้ว? “ยังศูนย์พักคอยของเรามันมีทั้งหมด3ศูนย์ด้วยกันนะคะ มีพี่เขตประเวศน์ ตอนนี้ก็เต็ม เขตห้วยขวาง ตอนนี้ก็เต็ม อย่างเขตคันนายาว ตอนนี้ก็ล้น อย่างที่ทุกคนก็คงจะเห็นใน Facebook อยู่แล้วนะคะ เราก็จะบอกตลอดว่าเต็ม

ที่มา khaosod