วันที่ 3 มี.ค. 65 นักแสดงสาว โม อมีนา พินิจ เข้ารับปริญญาบัตร ที่ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ซึ่งมีเพื่อนๆ ทั้งในและนอกวงการได้เดินทางมาร่วมแสดงความยินดี

นักแสดงสาวได้เปิดใจถึงความรู้สึกที่เข้ารับปริญญา และความคืบหน้าคดีของ แตงโม นิดา ที่พลัดตกเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา

วันนี้รับปริญญา จบจากคณะอะไร เป็นยังไงบ้าง? “เรียนจบคณะนิเทศฯ สาขาสื่อสารการตลาดและตราสินค้าค่ะ โมเรียนจบตั้งแต่ปี 62 แต่ว่าติดสถานการณ์โควิดเลยยังรับไม่ได้ มีแพลนว่าหลังจากนี้จะค่อยๆ ขยับตัวไปเป็นเบื้องหลัง เดี๋ยวดูลู่ทางอีกที เสร็จงานพี่ (แตงโม นิดา) จะคิดอีกทีว่ายังไง ส่วนเรื่องเรียนต่อคุณพ่อคุณแม่อยากให้เรียนต่อ อาจจะเรียนก็ได้ ถ้าผันตัวเองไปเป็นเบื้องหลังแล้ว ก็เดี๋ยวว่ากันอีกที (ยิ้ม)”

แตงโมเคยสัญญาไว้ว่าจะมาร่วมรับปริญญา? “มาแล้วนี่ไง (รูปถ่าย) คือโมไม่เคยรู้เลย พอพุดเดิ้ลเล่าให้ฟังว่าพุดเดิ้ลกับแอนนาจะมาไม่ได้เพราะว่าติดถ่ายรายการแล้วรูปพี่แตงโมตกลงมา

คือเราก็พูดกับพี่ตลอดว่าพี่ต้องมานะ พี่มาหาหน่อย หนูรับปริญญาแล้ว ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า ก็รู้สึกแว้บหนึ่งรู้สึกว่าเราเห็นภาพว่าพี่มากอดเมื่อเช้าตอน 9โมงตรง

แตงโมสัญญาจะมางานรับปริญญาของเราเพราะเราเองก็ไปงานรับปริญญาของเขาด้วย ? “เราก็บอกเขาว่างานสำคัญของเราปีนี้มีอะไรบ้าง เราอยากให้พี่มานะ อยากให้พี่มา”

เรื่องของคดี ที่วันก่อนพูดว่าถ้าเจอเราจะไฝว้? “เราไม่ได้จะไปทะเลาะนะ เราแค่รู้สึกว่าเราก็มีคำถามในใจ หลายๆคำถาม โมไม่เคยทะเลาะกับพี่กระติก โมแค่อยากรู้อยากฟังเหตุผลจากเขาแบบส่วนตัว ไม่อยากให้ใครรับรู้เหมือนกันแต่ก็อยากฟังจากพี่เขาเองค่ะ”

ถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้คุยกันกับกระติก? “คุยไปนิดเดียวเองค่ะ ก็แค่แบบว่า ขอโทษนะมึงที่ไม่ได้บอกอะไรแบบนี้ ตอนนั้นอยู่นิติเวชเราก็ไม่ได้มีคำถามอะไรแล้ว แค่อยากเข้าไปหาพี่”

ณ ตอนนี้เราก็มีข้อสงสัยหลายๆอย่าง ในมุมของเรามีข้อสงสัยอะไรบ้างในการตั้งข้อสังเกตกับกรณีที่เกิดขึ้น? “ก็เรื่องส่วนตัวซะเยอะ ถ้าจะถาม”

มีปัญหากับคนอื่นไหมในความรู้สึกของเรา ยังโกรธหรืออะไรใครไหม? “เรารู้จักแค่พี่กระติกคนเดียวเนอะ คนอื่นเราไม่ได้รู้จักเราไปคาดการณ์เราไปสันนิษฐานคาดเดาเรื่องเขาอะไรไม่ได้หรอก เพราะเราไม่รู้จักและเราก็ไม่สามารถไปมีเรื่องกับพวกเขาได้ด้วย แต่เรารู้จักพี่กระติกไงแล้วเราก็ไม่ได้อยากมีเรื่องกับพี่กระติกแต่ว่าเราแค่อยากถามความในใจของเราเท่านั้นเอง”

กับเบิร์ดได้คุยกันเขาติดใจอะไรไหม? “พี่เบิร์ดเขาไม่ได้โกรธไม่ได้อะไรนะคะ พี่เบิร์ดตอนนี้เขาแค่เสียใจ สิ่งที่เขาเสียใจเพราะเขารักพี่เรามากแค่นั้นเอง เขารักมากของเขาจริงๆ เราเข้าใจเลย เขาได้ดูแลพี่เราสองปีเองนะ เขารักของเขามาตั้งนาน”

สภาพจิตใจเขาเป็นอย่างไรบ้าง? “เราโทรคุยกันทุกวัน ตอนนี้พี่เขาไปพักผ่อน เราก็อยากให้พี่เขาไปพักผ่อนให้เต็มที่ บอกให้เขาทานข้าว และพักผ่อนเยอะๆ แล้วกลับมาสู้กันต่อนะพี่”

เมื่อคืนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจำลองเหตุการณ์ ในมุมของเราเป็นยังไง? “ไม่ได้ดูเลยค่ะ”

มันเหมือนมีข้อมูลหนึ่งออกมาว่ามั่นใจว่าเขาเป็นคนขับเรือในคืนนั้น? “คืองี้นะคะ พยานบุคคลมันก็มีได้แค่คนบนเรือเนอะ พยานวัตถุก็ไม่รู้ยังไง พยานสิ่งแวดล้อมก็เชื่อได้หรือเชื่อไม่ได้เราก็ไม่รู้อีก มันเดาอะไรไม่ได้เลย แล้วก็จากร่างของพี่ก็ต้องรอผลนิติเวช

โมก็เชื่อในจรรยาบรรณของแพทย์ ของเจ้าหน้าที่แล้วก็เชื่อในการทำงานของทุกๆฝ่าย ก็อยากให้ทุกคนทำงานได้เต็มที่ ขอบคุณที่ทำงานเพื่อพี่ของโมแล้วก็ทำเพื่อพี่โมกันขนาดนี้ ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกฝ่ายจริงๆค่ะ ขอบคุณทุกคนที่ร่วมกันทำงาน โมเชื่อว่าความจริงเป็นยังไงเดี๋ยวก็ออกมาให้เห็นเอง”

ก่อนหน้านี้เราบอกว่าเรารู้ความจริงบางอย่างแต่บอกไม่ได้? “ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแค่นั้นเอง ว่าคุณพี่ขา คุณพี่มีหลักฐานตรงนี้หรือยังค่ะ พอเรารู้ว่าเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานครบหมดแล้วเราสบายใจ พอละ แล้วรู้แล้วอะไรยังไง”

ตอนนี้เหมือนหลักฐานออกมาเยอะไปหมด เราเห็นแล้วคิดอย่างไร? “โมดูจากหลักฐานที่เป็นจริง โมไม่ดูจากหลักฐานที่คนโน้นคนนี่พูด เราดูจากหลักฐานจริงๆ เราเชื่อได้จริงๆ เราถึงเชื่อ”

คลิปที่แตงโมร้องเพลงในเรือ มีเสียงผู้ชายแทรกเข้ามา “เอาเพื่อนเรามานี่”? “ต่อให้เราแยกเสียงได้ เราก็ไม่รู้ว่าเขาเรียกพี่เราหรือเปล่า เราก็ไม่รู้ เขาเรียกใคร เสียงใคร โมวอนว่าอย่าเดาไปเรื่อยดีกว่า ให้มันแยกออกมาได้ว่าใคร อะไรยังไงโอเคเราถึงระบุได้

แต่ว่าตอนนี้เราไม่รู้ว่าเสียงใคร เป็นเสียงผู้ชายใช่ไหมละ เขาอาจจะไม่ได้เรียกพี่เราก็ได้ เราอย่าไปเดากันเองดีกว่า ให้เขาพิสูจน์ออกมาให้เรียบร้อยแล้วค่อยว่ากัน”

ดูเรามั่นใจมากจะได้คนผิดในเหตุการณ์นี้? “แล้วแต่ตำรวจและเจ้าหน้าที่พิจารณา แล้วแต่ศาลพิจารณา ความยุติธรรมมันมี ใครจะผิดหรือใครไม่ผิด ทุกคนคงรู้ผลพร้อมกันนะคะ อย่าเพิ่งไปโบ้ยว่าใครผิด ใครไม่ผิดดีกว่า โมว่ามันอาจจะมีผิด หรือไม่มีคนผิดเลยก็ได้ ตรงนี้เราต้องรอทางด้านความยุติธรรมตัดสินกันอีกทีนึง”

แตงโมมาเข้าฝันบ้างไหม? “ไม่ค่ะ เราเชื่อว่าพี่ได้อยู่กับพระเจ้าแล้วจริงๆ ให้พี่เป็นนางฟ้าดีแล้ว โมรู้จักกับพี่แตงโมตั้งแต่ปี 52-53 นับเอาเนอะว่ากี่ปี”

หลังจากนี้เราจะทำอะไรต่อให้แตงโมบ้าง นอกจากงานศพ? “อาจจะมีแพลนเล็กน้อย แต่ว่ายังไม่ได้สรุป”

งานศพได้ยินว่า เอ ศุภชัย และ อั้ม พัชราภา เป็นเจ้าภาพเอง? “ใช่ค่ะ ขอบคุณพี่เอพี่อั้มมากๆนะคะ ขอบคุณที่ทำเพื่อพี่โมค่ะ”

ได้คุยกับแม่แตงโมไหม? “กับคุณแม่เป็นการให้กำลังใจและซัพพอร์ตกันอย่างเดียว โมไม่เข้าไปลึกในเรื่องส่วนตัว เราไม่ยุ่ง เขาคือแม่ของพี่เรา ตอนนี้พี่มีแค่แม่แล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่หนูทำได้คือให้กำลังใจและอยู่ข้างคุณแม่”

ที่มา khaosod