วันที่ 5 มีนาคม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า จากสถิติการเกิดอุบัติภัยจากสารเคมีจะพบมีเหตุการรั่วไหลของก๊าซแอมโมเนียจากโรงงานผลิตน้ำแข็งและห้องเย็นอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดในช่วงเดือนเศษของปี 2565 เกิดขึ้นแล้ว 3 ครั้ง ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 และกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 6 มกราคม และวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565
และอาจจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนที่มีความต้องการบริโภคน้ำแข็งมากกว่าช่วงเวลาอื่น จึงอยากแจ้งเตือนผู้ประกอบการ หากเร่งกำลังการผลิตมากขึ้น จะทำให้ระบบทำความเย็นทำงานหนัก เพิ่มความเสี่ยงในการรั่วไหลของก๊าซแอมโมเนียหรืออาจเกิดจากความบกพร่องของอุปกรณ์ ก๊าซแอมโมเนียจะมีความเป็นพิษต่อระบบการหายใจของประชาชนทั้งที่ปฏิบัติงานอยู่ในบริเวณที่มีการรั่วไหลและที่พักอาศัยบริเวณใกล้เคียง
นายอรรถพล กล่าวว่า การรั่วไหลของแอมโมเนีย ส่วนใหญ่มีสาเหตุหลักจากความบกพร่อง ความชำรุดของอุปกรณ์ เช่น รอยรั่วของท่อขนส่ง ข้อต่อ วาล์ว หรือเกิดระหว่างการบำรุงรักษาระบบ เนื่องจากแอมโมเนียสามารถรวมตัวกับน้ำและความชื้นภายในโรงงานเกิดเป็นแอมโมเนียมไฮดรอกไซด์ ที่มีความเป็นด่างสูง สามารถกัดกร่อนระบบท่อส่งก๊าซและวาล์วทำให้เกิดรอยรั่วได้
นอกจากนี้ ยังอาจเกิดได้จากการจัดเก็บภาชนะบรรจุแอมโมเนียที่ไม่เหมาะสม เช่น ไม่มีการจัดพื้นที่สำหรับการเก็บสารเคมีโดยเฉพาะ ไม่มีการติดป้ายสัญลักษณ์เตือนอันตราย เป็นต้น ประกอบกับส่วนใหญ่โรงงานน้ำแข็งเป็นกิจการเก่าแก่ และมักตั้งอยู่ในชุมชน การรั่วไหลของก๊าซแอมโมเนียซึ่งมีความเป็นพิษต่อระบบการหายใจจึงก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนจำนวนมาก รวมทั้งหากมีน้ำเสียจากการดับเพลิงหรือการดักจับก๊าซแอมโมเนียถูกปล่อยสู่แหล่งน้ำสาธารณะ สามารถทำให้ปลาและสัตว์น้ำตายได้ เนื่องจากแอมโมเนียมีความเป็นพิษต่อสัตว์น้ำ และทำให้ปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้ำลดลง
คพ. ได้มอบหมาย สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 – 16 ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อแจ้งเตือนผู้ประกอบการโรงงานผลิตน้ำแข็งและห้องเย็น ในการตรวจสอบระบบ วัสดุอุปกรณ์ ให้เพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจการในช่วงฤดูร้อน ทั้งนี้ คพ. ได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น ERG4Thai หรือแอพพลิเคชั่นคู่มือการระงับอุบัติภัยเบื้องต้นจากวัตถุอันตราย
เพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้เป็นข้อมูลสนับสนุนการกู้ภัย อาทิ ความเป็นอันตรายจากการรับสัมผัสทางการหายใจ ผิวหนังและดวงตา การดำเนินการเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน อาทิ เพลิงไหม้ การรั่วไหล การปฐมพยาบาลเบื้องต้น และแนวทางการพิจารณาอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เกิดเหตุ สามารถดาวน์โหลดได้ในระบบปฏิบัติการ Android iOS และเว็บไซต์ที่ www.erg4Thai หากมีข้อสงสัยประการใดหรือต้องการคำปรึกษา แนะนำ สามารถโทรศัพท์สายด่วน 1650 ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา : Matichon