ผบช.ภ.1 ประชุมคณะพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดี แตงโม เรียกแก๊งเพื่อนบนเรือ 5 คนให้ปากคำเพิ่ม สอบเครียด แซน วิศาพัช ยัน ไร้ผู้มีอิทธิพลแทรกแซง
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 มี.ค.2565 ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บก.สส.ภ.1) พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ได้เรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ชุดคลี่คลายคดีการเสียชีวิต น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ที่เสียชีวิตจากการพลัดตกเรือสปีดโบ๊ต โดยมีการเรียกตัวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ 5 คน เข้าทำการสอบปากคำเพิ่มเติม โดยยังคงสอบปากคำ น.ส.วิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน หนึ่งในกลุ่มเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์และยังเป็นเพื่อนคนสุดท้ายที่อยู่กับดาราสาว โดยไม่ทราบข้อมูลว่ามาเข้าให้ปากคำกับทางคณะพนักงานสอบสวนตั้งแต่เวลาใด
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวว่า กรณีที่มีการสอบปากคำผู้อยู่เหตุการณ์เพิ่มเติมเป็นกรณีการทำงานของพนักงานสอบสวนที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากหากเปิดเผยข้อมูลออกมาจะทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดความยากลำบากและข้อมูลดังกล่าวจะถูกใช้เป็นพยานหลักฐานในชั้นศาล
“อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาสักระยะ ทั้งนี้ หากใครมีพยานหลักฐานใดสามารถให้พนักงานสอบสวนทำการตรวจสอบได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการด้วยความยุติธรรมไม่มีการแทรกแซงจากผู้มีอิทธิพลแต่อย่างใด เนื่องจากทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ควบคุมสั่งการคดีดังกล่าวด้วยตัวเอง” ผบช.ภ.1 กล่าว
ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า คณะพนักงานสอบสวนได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้ง 5 คนที่อยู่บนเรือกับแตงโมมาสอบปากคำอีกครั้ง เนื่องจากหลังเกิดเหตุผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้ง 5 คน อยู่ในการหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงไม่ได้รีบให้ข้อมูลกับทางกู้ภัยเพื่อตามหาแตงโม และใช้เวลาปรึกษาทนายดังกล่าวจนทำให้เหตุการณ์บานปลาย จึงทำให้คนเข้าใจผิด
ทั้งนี้ อยู่ระหว่างรอผลสรุปรวบรวมพยานหลักฐานการเสียชีวิตและชี้แจงสาเหตุการเสียชีวิตดังกล่าวอีกครั้ง โดยสาเหตุการเสียชีวิตยังเชื่อได้ว่า อาจจะเกิดจากอุบัติเหตุ เนื่องจากได้ทำการสอบปากคำ น.ส.วิศาพัช ผู้เห็นเหตุการณ์ที่ดาราสาวพลัดตกเรือไปอย่างละเอียด ส่วนกรณีที่มีอดีตนายตำรวจแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับคนมีสีนั้น คณะพนักงานสอบสวนไม่ได้มีการให้น้ำหนักกรณีดังกล่าว เนื่องจากไม่เกี่ยวข้องกับสาเหตุการเสียชีวิตของดาราสาวชื่อดังแต่อย่างใด
ที่มา khaosod.