ตำรวจเตรียมออกหมายจับ ผัวเก่าหึงโหด ยิงดับเมีย-แฟนใหม่ เสียชีวิต 2 ราย ญาติ เล่านาทีสลด เผย ผู้ก่อเหตุพยายามขอคืนดี แต่ฝ่ายหญิงยืนยันคำเดิม
จากกรณี นายเลิศ อดีตสามี ก่อเหตุยิง น.ส.สุชาดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี อดีตภรรยา และ นายจณุกิตติ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี เสียชีวิตบริเวณข้างบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ก่อนขับจักรยานยนต์หลบหนีไปเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 9 มี.ค.2565 พ.ต.อ.จตุพร คงเมือง ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีดังกล่าว ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์มาให้ปากคำเพิ่มเติม อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับมือปืนแล้ว ทราบชื่อคือ นายเลิศลาภิศ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบมีการล้างคราบเลือดที่พื้นบ้านไปหมดแล้ว และยังมีร่องรอยของคมกระสุนยิงเสาบ้านทะลุไปยังผนังบ้านเป็นรูโหว่ จำนวน 1 รู โดยมี น.ส.ประชวน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี พยานที่อยู่ในเหตุการณ์กำลังจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
น.ส.ประชวน กล่าวว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะนั่งร่วมวงกันก็นั่งคุยกันปกติถึงเรื่องที่นายจณุกิตติ์ แฟนใหม่ของน.ส.สุชาดา จะพาตนเองไปทำงานที่โรงงานแหนมแห่งหนึ่ง โดยที่นายเลิศลาภิศ ซึ่งเป็นแฟนเก่าของน.ส.สุชาดานั่งอยู่ด้วย แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเกิดเรื่อง เพราะทั้งหมดก็รู้จักกันมา ประกอบกับคืนที่ผ่านมามีตนนั่งดื่มเบียร์เพียงคนเดียว ส่วนคนอื่นนั้นนั่งดื่มน้ำเปล่า ก็คุยกันสนุกเฮฮาทำให้มีการนั่งคุยกันนานหน่อย โดยมันดึกแล้วจึงอยากให้ทุกคนเดินทางกลับเพราะต้องทำงาน
“จังหวะที่นายจณุกิตติ์ ขอตัวเข้าห้องน้ำและที่เหลือเตรียมจัดเก็บโต๊ะ ทันใดนั้น นายเลิศลาภิศได้เดินไปใช้อาวุธปืนยิงที่ขาของน.ส.สุชาดา เราตกใจจึงพากันวิ่งหนี ช่วงจังหวะนั้นเอง นายจณุกิตติ์ได้ออกจากห้องน้ำมาพอดีจึงเข้าไปแย่งปืน ทำให้ถูกยิงจนร่างทรุดลง จากนั้นนายเลิศลาภิศได้เดินไปยิงน.ส.สุชาดาอีกหลายนัดก่อนจะวิ่งหนีไปที่รถจักรยานยนต์และขับรถออกไป” น.ส.ประชวน กล่าว
น.ส.ประชวน กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ก่อเหตุก็เคยเจอกันมาหลายครั้งแล้วที่บ้านเกิดเหตุ ก็พูดคุยกันสนุกเฮฮาไม่มีท่าทีว่าจะเกิดเหตุร้ายแต่อย่างใด ซึ่งในช่วงเช้าของวันเกิดเหตุผู้ก่อเหตุได้เข้ามาหาตนเพื่อให้เป็นสื่อกลางในการประสานเพื่อจะขอคืนดีกับน.ส.สุชาดา โดยตนโทรศัพท์ไปเพื่อขอคืนดีพร้อมกับให้บอกว่าจะซื้อสร้อยทองให้หรือกราบเท้าก็ได้ เพราะตนเองรักของตน และฝ่ายหญิงยืนยันคำเดิมว่าไม่ขอกลับมาคืนดี
น.ส.ประชวน กล่าวอีกว่า กระทั่งช่วงค่ำน.ส.สุชาดาได้โทรมาหาตนว่า นายเลิศลาภิศ เข้ามาหรือไม่ตนก็บอกว่าไม่ได้เข้ามา เวลาผ่านไปไม่นานน.ส.สุชาดา จึงเข้ามาที่บ้านหลังเกิดเหตุ หลังจากนั้น นายเลิศลาภิศ จึงเดินทางมา โดยตน นายจณุกิตติ์ เดินทางมาที่หลัง ก็คุยกันตามปกติไม่คิดว่าจะมีเหตุยิงกันเกิดขึ้น สำหรับผู้ก่อเหตุนั้นเคยมีอาชีพขับวินจักรยานยนต์รับจ้าง เคยมีครอบครัวมาแล้วแต่ได้เลิกร้างกันไป
ที่มา khaosod.
