ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.30 น. วานนี้ (31 พฤษภาคม) ร.ต.อ.สมใจ นิ่มวุ่น รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองตรุด อ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนถูกฟ้าผ่าเสียชีวิต พื้นที่หมู่ 6 บ้านควนสระแก้ว อ.เมืองตรัง จ.ตรัง

หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยนายเสกสรร อั้นทอง กำนัน ต.นาโต๊ะหมิง ฝ่ายปกครอง แพทย์เวร รพ.ศูนย์ตรัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง

เมื่อถึงที่เกิดเหตุ บริเวณพื้นดินใต้ต้นกระท้อนใหญ่ อายุประมาณ 18 ปี พบศพนายราศี สุขยิ่ง หรือบ่าวหลวน อายุ 47 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป นอนหงายเสียชีวิต เสื้อผ้าฉีดขาด มีร่องรอยไหม้จนเกรียม พบบาดแผลถูกไฟไหม้ดำบริเวณตั้งแต่หน้าอกไปจนถึงเท้าทั้งสองข้าง ใกล้กันพบเคียวตัดกิ่งไม้ตกอยู่ข้างศพ

ตรวจสอบบนต้นกระท้อน ความสูงจากพื้นดินประมาณ 3 เมตร พบไม้ไผ่ยาวใช้สำหรับสอยกระท้อนตั้งอยู่ และบริเวณใต้ต้นพบลูกกระท้อนตกอยู่เป็นจำนวนมาก ท่ามกลางบรรดาญาติพี่น้องต่างอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ

ด้าน น.ส.ใจ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นภรรยา หลังทราบข่าวได้เกิดเป็นลมล้มพับ เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนรีบนำส่ง รพ.ศูนย์ตรังอย่างเร่งด่วน

จากการสอบถาม น.ส.นภาพร สุขยิ่ง อายุ 30 ปี อาชีพกรีดยาง หลานสาวผู้ตาย เล่าว่า เวลาประมาณบ่าย 3 โมง ใกล้จะ 4 โมงเย็น เป็นช่วงที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝน แต่ฝนยังไม่ตก ตนเองอยู่ในบ้านซึ่งเป็นบ้านของผู้ตายที่อยู่ติดกับที่เกิดเหตุ ทราบจากผู้ตายว่าจะไปขึ้นต้นกระท้อน เพื่อนำไปขายให้กับลูกค้าซึ่งเป็นเพื่อนภรรยาที่สั่งเอาไว้ จังหวะที่ผู้ตายอยู่บนต้นกระท้อน ตนได้ยินเสียงฟ้าผ่าดังสนั่น 2-3 ครั้ง ก่อนจะเกิดแสงไฟสว่างจ้ารอบบริเวณบ้าน ก่อนที่จะวูบหายไป จึงเกิดความเป็นห่วงผู้ตาย เลยเปิดหน้าต่างออกมาดูปรากฏว่าผู้ตายถูกฟ้าผ่า ร่วงลงมาจากต้นไม้ที่สูงประมาณ 3 เมตร กระแทกพื้นเสียชีวิตแล้ว โดยปกติผู้ตายจะขึ้นเก็บต้นกระท้อนเพื่อนำไปขายเป็นประจำ

อย่างไรก็ตาม ทางญาติไม่ได้ติดใจในสาเหตุการตาย เบื้องต้นคาดว่าเคียวเหล็กที่ผู้ตายถืออยู่ ประกอบกับโทรศัพท์มือถือที่ผู้ตายพกติดตัวอาจเป็นเหตุให้เกิดเรื่องสลดดังกล่าว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมอบร่างให้กับญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป

ที่มา MATICHON