10 จังหวัด ติดโควิดสูงสุด ยังเกิน 500 ราย กทม.เกิน 3,000 ราย ชลบุรี-เมืองคอน เกิน 1,000 ราย วันนี้เสียชีวิตยังสูง 63 ราย ด้าน “ลำพูน” รายงานเป็น 0
วันที่ 11 มี.ค.2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด 19 ประจำวันว่า ประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อใหม่เกินหมื่นรายเป็นวันที่ 35 ในการระบาดระลอกโอมิครอน โดยวันนี้พบติดเชื้อรายใหม่ 24,792 ราย สะสม 3,136,649 ราย หายป่วย 22,065 ราย สะสม 2,890,076 ราย เสียชีวิต 63 ราย สะสม 23,575 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 222,998 ราย อยู่ใน รพ. 63,553 ราย อยู่ รพ.สนาม HI CI 159,445 ราย มีอาการหนัก 1,255 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 415 ราย
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 63 ราย มาจาก 28 จังหวัด ได้แก่ กทม. 7 ราย, นครศรีธรรมราช 5 ราย, พัทลุง ยะลา สุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 4 ราย, ปทุมธานี สตูล จังหวัดละ 3 ราย, นครปฐม สมุทรปราการ สุรินทร์ อุดรธานี อุบลราชธานี ตาก นครสวรรค์ นราธิวาส ภูเก็ต ชลบุรี นครนายก ราชบุรี จังหวัดละ 2 ราย และ เชียงราย แพร่ อุทัยธานี พังงา สงขลา กาญจนบุรี ตราด พระนครศรีอยุธยา และสระแก้ว จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 37 ราย หญิง 26 ราย อายุ 28-93 ปี เฉลี่ย 69 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 95%
ส่วน 10 จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อรายใหม่สูงสุด คือ
- 1.กทม. 3,171 ราย
- 2.ชลบุรี 1,386 ราย
- 3.นครศรีธรรมราช 1,324 ราย
- 4.นนทบุรี 971 ราย
- 5.สมุทรสาคร 829 ราย
- 6.สมุทรปราการ 813 ราย
- 7.ปทุมธานี 645 ราย
- 8.พระนครศรีอยุธยา 617 ราย
- 9.นครราชสีมา 532 ราย
- 10.นครปฐม 519 ราย
สำหรับจังหวัดติดเชื้อถึง 100 รายขึ้นไปยังมีอีก 51 จังหวัด คือ ภูเก็ต 489 ราย, สงขลา 489 ราย, ระยอง 480 ราย, ราชบุรี 474 ราย, พัทลุง 442 ราย, บุรีรัมย์ 432 ราย, สุพรรณบุรี 415 ราย, ขอนแก่น 409 ราย, ปัตตานี 391 ราย, ร้อยเอ็ด 370 ราย, ฉะเชิงเทรา 361 ราย, กาญจนบุรี 349 ราย, อุบลราชธานี 332 ราย,
สุรินทร์ 328 ราย, เชียงใหม่ 288 ราย, ยะลา 279 ราย, ชัยภูมิ 272 ราย, จันทบุรี 261 ราย, เพชรบุรี 254 ราย, สมุทรสงคราม 254 ราย, ปราจีนบุรี 242 ราย, สระแก้ว 236 ราย, สระบุรี 235 ราย, ศรีสะเกษ 234 ราย, มหาสารคาม 231 ราย, ประจวบคีรีขันธ์ 227 ราย, ตรัง 222 ราย, สกลนคร 207 ราย
สุราษฎร์ธานี 198 ราย, สตูล 194 ราย, อุดรธานี 194 ราย, อ่างทอง 187 ราย, ชุมพร 179 ราย, ระนอง 179 ราย, กาฬสินธุ์ 175 ราย, ลพบุรี 172 ราย, พิษณุโลก 171 ราย, สุโขทัย 169 ราย, นครสวรรค์ 167 ราย, กระบี่ 165 ราย, ตาก 165 ราย, เลย 158 ราย, กำแพงเพชร 147 ราย, หนองคาย 147 ราย,
หนองบัวลำภู 143 ราย, นราธิวาส 136 ราย, ยโสธร 133 ราย, ตราด 122 ราย, เพชรบูรณ์ 120 ราย, สิงห์บุรี 110 ราย และ แพร่ 102 ราย ทั้งนี้ ไม่มีจังหวัดใดติดเชื้อหลักน่วย แต่มี “ลำพูน” ที่ไม่มีรายงานการติดเชื้อหรือเป็น 0 ด้วยวิธี RT-PCR
ส่วนการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 158 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 80 ราย ใน 28 ประเทศ ซึ่งประเทศต้นทางที่มีการติดเชื้อมาก เช่น ซาอุดิอาระเบีย 16 ราย, กัมพูชา 8 ราย, อังกฤษ รัสเซีย ประเทศละ 6 ราย, เยอรมนี 5 ราย เป็นต้น ภาพรวมเข้าระบบ Test&Go 50 ราย แซนด์บ็อกซ์ 11 ราย ระบบกักตัว 16 ราย และลักลอบเข้าประเทศ 3 ราย
สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 1-10 มี.ค.2565 จำนวน 80,966 ราย รายงานติดเชื้อ 838 ราย คิดเป็น 1.05% แบ่งเป็นระบบ Test&Go 69,361 ราย ติดเชื้อ 543 ราย คิดเป็น 0.78% แซนด์บ็อกซ์ 10,117 ราย ติดเชื้อ 266 ราย คิดเป็น 2.63% และกักตัว 1,488 ราย ติดเชื้อ 29 ราย คิดเป็น 1.95%
การฉีดวัคซีนโควิด 19 วันที่ 10 มี.ค. ฉีดได้ 218,260 โดส สะสมรวม 125,589,061 โดส เป็นเข็มแรก 54,187,319 ราย คิดเป็น 77.9% ของประชากร เข็มสอง 49,936,840 ราย คิดเป็น 71.8% ของประชากร และเข็มสาม 21,464,902 ราย คิดเป็น 30.9% ของประชากร
ที่มา khaosod