หมอพรทิพย์ ชี้ ดีที่สุดขอทราบผลชันสูตร แตงโม แนะผ่ารอบสองให้ตรวจกระดูกรอยตัดเข้ากับวัตถุใด รับเป็นที่ปรึกษาให้ แต่ร่วมผ่าไม่ได้ เหตุติดข้อกฎหมาย

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 14 มี.ค.2565 ที่รัฐสภา พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว. ในฐานะคณะกรรมาธิการ(กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของน.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ขออายัดศพ เพื่อขอชันสูตรเป็นรอบที่สองว่า ตามคำแนะนำที่คุยกับแม่ของแตงโม และทนายความว่า การขอทราบผลตรวจศพและตรวจทุกอย่างที่เกี่ยวกับศพจากสถาบันนิติเวช คือดีที่สุด

ทราบว่าคุณแม่แตงโมจะไปยื่นวันนี้ เวลา 15.00 น. โดยตนจะไปในนามของกมธ.และผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ เพื่อเข้าไปร่วมดูและอธิบายให้ฟังว่าตอบคำถามหมดหรือไม่ เช่น แผลที่ขา หลังจากได้ผลชิ้นเนื้อแล้ว หมอจะทราบได้ว่าโดนใบพัดหรืออะไรกันแน่

หรือถ้ายังมีประเด็นที่เป็นข้อสงสัย เมื่อนั้นควรจะชันสูตรศพใหม่ ซึ่งเป็นสิทธิ์ของเขา และเป็นเรื่องของกระทรวงยุติธรรมและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้ โดยส่วนตัวและมารยาทจะไม่ลงไปเป็นผู้ผ่าชันสูตรศพเอง เพราะตามข้อกฎหมายไม่ได้อยู่ในฐานะที่ทำได้ แต่ตนให้คำปรึกษาได้ ทั้งในนามกมธ. และการเป็นคนไทยที่เห็นความไม่ยุติธรรม

เมื่อถามว่าเป็นที่ปรึกษาผ่าพิสูจน์ศพรอบสองได้หรือไม่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่อาจจะติดต่อตนมาเพื่อตั้งเป็นที่ปรึกษาก็ได้ แต่ส่วนตัวเมื่อเห็นว่าประชาชนคนใดเดือดร้อน ถ้าช่วยได้ก็จะช่วย

ต่อข้อถามว่าเมื่อวันที่ 13 มี.ค. มีผลชันสูตรจากหน่วยงานภายนอกระบุว่าบาดแผลที่ขาเกิดก่อนเสียชีวิต บ่งชี้อะไรได้บ้าง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า อย่างแรกอยากให้ทุกคนไปดูที่ต้นตอข่าวก่อนว่า ใครเป็นผู้ให้ข่าว ผู้ผ่าศพหรือผู้ที่ตรวจชิ้นเนื้อ เพราะในไทยหากต้องการตรวจชิ้นเนื้อ ผู้ผ่าศพจะเป็นคนแรกที่เป็นผู้เลือกชิ้นเนื้อแล้วนำส่งไปที่พยาธิแพทย์ ซึ่งเขาจะระบุเพียงว่าเลือดพบการอักเสบ จากนั้นหมอจะนำมาบอกว่าแผลเกิดก่อนเสียชีวิต

ขณะที่หมอผ่าศพต้องรู้ว่าแผลนี้ไม่โดนเส้นเลือดใหญ่ หมอจึงเป็นคนพูดว่าแผลนี้ไม่ได้ทำให้เสียชีวิต ดังนั้น แพทย์ที่ตรวจชิ้นเนื้อไม่น่าจะให้ผลชันสูตรนี้ ฉะนั้น แปลได้ว่าแผลดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนเสียชีวิต ซึ่งเป็นคำถามที่เคยถามว่าแผลดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนตกน้ำหรือเกิดตอนอยู่ในน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องยาก

“จริงๆ คดีนี้ไม่ยาก อยู่ที่ว่าได้รวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วน ถูกต้อง ทันเวลาหรือไม่ และการจะบอกว่าแผลเกิดขึ้นก่อนหรือหลังตกน้ำ ไม่ได้อยู่ที่ศพ แต่อยู่ที่ที่เกิดเหตุคือ นิติวิทยาศาสตร์ เรือ และบุคคลทั้ง 5 คน และการให้ชันสูตรรอบสองก็ถือว่าชัดเจนว่าถึงเวลาหรือยังที่ต้องปฏิรูป เพราะแผล จะตอบได้เลยว่าเกิดขึ้นก่อนตกน้ำหรือในน้ำ โดยกรณีหนึ่งสาธิตให้เห็นแล้วคือการจำลองด้วยเรือ ว่าเรือที่มีความเร็วและแตงโมหล่นท้ายเรือแบบที่คิดว่าไปนั่งฉี่ ตัวจะกระเด็นออกไปไม่โดนอะไรเลย ฉะนั้น เป็นนิติวิทยาศาสตร์อีกสาขาหนึ่งที่นำมาประกอบในการสรุป” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวต่อว่า ตนจะเข้าไปร่วมผ่าพิสูจน์ด้วยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถาบันนิติเวช แต่ข้อแนะนำ คือ การตรวจกระดูกในบริเวณที่วัตถุไปโดน สามารถนำท่อนกระดูกนั้นไปตรวจด้วยกล้องฯ ซึ่งกล้องดังกล่าวมีที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับโลหะ หรือใบพลัด รวมทั้งขวดและแก้วไวน์ด้วย

อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านมาหลายวันทำให้สภาพศพเกิดปัญหา แต่ประเด็นหลักที่ญาติต้องการ หรือสิ่งที่เขาต้องตอบ ต้องดูว่าอยากทราบอะไร แต่เชื่อว่าการผ่าชันสูตรครั้งที่หนึ่งตอบไปได้มากแล้ว แต่ถ้านำมาชันสูตรรอบที่สอง แล้วสมมุติถามว่าแตงโมมีแอลกอฮอล์หรือไม่ รับรองว่าตรวจไม่ได้ ดังนั้น การตรวจรอบสอง จะช่วยได้ในช่วงบริเวณกระดูกรอยตัด

ทั้งนี้ วันที่ 16 มี.ค. ตนจะไปเข้าไปดูเรื่องนี้กับครอบครัวแตงโมว่าตอบได้หมดหรือไม่ หากพบว่าตอบอะไรไม่ได้ จะไปถามในการชันสูตรครั้งที่สอง และคดีนี้ถือว่าแปลกแต่ต้น เพราะไม่ใช่วิถีที่จะทำให้เกิดความกระจ่าง คือการไม่เก็บหลักฐานของคนทั้ง 5 คน และเรือทันที และเรือก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาซึ่งขัดกับหลักนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนเรื่องฟันหักก็คงเป็นเรื่องที่นิติเวชจะต้องตอบ

ที่มา www.khaosod