สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ระบุว่า รัฐบาลฝรั่งเศสอนุมัติงบประมาณมูลค่า 2,000 ล้านยูโร หรือราว 66,672 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินอุดหนุนช่วยประชาชนที่เจอกับปัญหาราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลพุ่งสูง โดยงบดังกล่าวจะทำให้ราคาน้ำมันหน้าปั๊มลดลงมากกว่า 5 บาทต่อลิตร มีผลทันทีในวันที่ 14 มีนาคม
ฌ็อง กัสแต็กซ์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ประกาศในช่วงค่ำของวันที่ 12 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่นระบุว่า ราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลจะลดลงราว 0.15 ยูโร ต่อลิตร โดยส่วนต่างดังกล่าว รัฐบาลจะจ่ายให้กับเจ้าของปั๊ม
“นั่นหมายความว่าทุกครั้งที่คุณเติมน้ำมัน 60 ยูโร (2,187 บาท) คุณจะประหยัดไปได้ราว 9 ยูโร (327 บาท)”
รายงานระบุว่า ราคาน้ำมันในฝรั่งเศสบางแห่งพุ่งสูงขึ้นถึง 2 ยูโรต่อลิตร หรือราว 72 บาท นั่นส่งผลให้รัฐบาลถูกกดดันอย่างหนัก ให้จัดการลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับภาคครัวเรือน
นอกจากนี้ รัฐบาลฝรั่งเศสยังถูกกดดันอย่างหนัก ให้ดำเนินการตัดลดภาษีด้วย เนื่องจากเกือบครึ่งของราคาหน้าปั๊มนั้น เป็นเงินภาษีที่ประชาชนต้องจ่าย
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาต้นทุนราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นราว 30 เปอร์เซ็นต์ ผลจากความต้องการน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น จากสถานการณ์รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน และต้องเจอกับมาตรการคว่ำบาตรอย่างหนัก โดยเฉพาะการประกาศห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียของหลายๆ ชาติ
มาตรการล่าสุด มีขึ้นหลังจากเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ประกาศเพดานราคาแก๊สและค่าไฟฟ้าเอาไว้จนถึงสิ้นปี 2022 นอกจากนี้ ยังแจกเงินให้กับครอบครัวยากจนเพื่อแบ่งเบาภาระค่าพลังงานในครัวเรือน
ทั้งนี้ 8 จาก 10 ครัวเรือนในฝรั่งเศสจะมีรถยนต์เป็นของตัวเอง ขณะที่ฝรั่งเศสกำลังจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนเมษายนนี้ โดยผลสำรวจความนิยมพบว่ามาครงยังคงมีคะแนนนำคู่แข่ง
ที่มา : ช่อง 3