ผู้นำเข้าสินค้าไทยและขายของออนไลน์กว่า 200 คน ในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย วิ่งโร่แจ้งตำรวจซิดนีย์ให้ดำเนินคดีกับบริษัทรับส่งสินค้าไทย โฆษณาทางออนไลน์คิดค่าระวางสินค้าราคาถูก ผู้นำเข้าสินค้าคนไทยหลงเชื่อใช้บริการส่งสินค้าไปถึงท่าเรือ แต่นำสินค้าออกจากท่าเรือไม่ได้บ่ายเบี่ยงตลอดเวลา จนล่าสุดบริษัทเดินเรือแจ้งเจ้าของสินค้าว่า บริษัทดังกล่าวสั่งทำลายสินค้าทิ้ง เพราะหากเปิดตู้สินค้าต้องจ่ายค่าระวางแพงขึ้น จึงเข้าร้องเรียนต่อสถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ และสถานกงสุลใหญ่ฯประสานให้เข้าแจ้งตำรวจดำเนินคดี โดยมีมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท
ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย รายงานมาว่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2564 เวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น น.ส.ปัญจาภรณ์ บูคะธรรม เจ้าของบริษัท BBB Worldwide Enterprise จำกัด นครซิดนีย์ พร้อมด้วยนายธีระศักดิ์ แก้วส่องศรี และนายนพดล ฐาปนเกรียงไกร ผู้นำเข้าสินค้าจากประเทศไทยเข้าซิดนีย์ ได้เป็นตัวแทนคนไทยผู้เสียหายจากการสั่งสินค้าจากประเทศไทยกว่าจำนวน 200 คน มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีเดย์ สตรีท นครซิดนีย์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นคนไทยประจำสถานีมารับเรื่อง และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ติดต่อประสานงานให้เข้าแจ้งความ เพื่อดำเนินคดีกับบริษัท MD Import Export International Trading Pty จำกัด ที่ประกาศโฆษณาทางออนไลน์ขายค่าระวางตู้คอนเทนเนอร์สินค้า หรือค่าส่งของไปทางเรือในราคาถูก ทำให้มีคนไทยหลงเชื่อติดต่อใช้บริการส่งสินค้าไปเป็น จำนวนมาก แต่ไม่สามารถนำสินค้าออกจากท่าเรือได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งความไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ก่อนหน้าที่ น.ส.ปัญจาภรณ์ และตัวแทนผู้เสียหายคนไทย จะเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2564 น.ส.ปัญจาภรณ์ พร้อมผู้เสียหายส่วนหนึ่งได้เข้าร้องทุกข์กับสถานกงสุล ณ นครซิดนีย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีนายชาลี กาญจนกุญชร รองกงสุลใหญ่, นายประสาท ศรแดง กงสุล และนางสลิลา เทพเกษตรกุล ผอ.สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ เข้าร่วมรับฟัง
น.ส.ปัญจาภรณ์ เจ้าของบริษัท BBB Worldwide Enterprise จำกัด นักธุรกิจนำเข้าสินค้า เจ้าของร้านทองรูปพรรณในนครซิดนีย์, ย่านไทยทาวน์ ร้องทุกข์ว่า เมื่อหลายเดือนก่อนได้มีกลุ่มบุคคล ซึ่งหนึ่งในนั้น มีอักษรย่อว่า “ป” ใช้ชื่อบริษัท MD Import Export International Trading Pty Ltd. ประกาศบนสื่อออนไลน์ โฆษณาในเพจชุมชนคนไทยในซิดนีย์ เพื่อขายค่าระวางตู้คอนเทนเนอร์สินค้า หรือค่าส่งของไปทางเรือในราคาที่ถูกกว่าความเป็นจริง โดยจะขนส่งสินค้าจากประเทศไทย มุ่งหน้าไปยังปลายทางที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย จึงมีคนไทยหลากหลายอาชีพ เป็นจำนวนมากหลงเชื่อ ได้ส่งสินค้าของตนมากับเรือลำดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีที่มีอักษรย่อว่า “อ” ที่ทำธุรกิจส่งตู้สินค้ามาให้ตนเช่นกัน แต่เป็นธุรกิจประเภทอื่น โดยทั้งคู่ได้แอบใช้ชื่อบริษัทและเอกสาร ที่ได้เซ็นมอบอำนาจไว้ให้กับ “อ” นำเข้าตู้สินค้าของ “ป” มาในนามบริษัทของตน เข้ามายังซิดนีย์ โดยที่ตนไม่รู้เรื่องและไม่ได้อนุญาตให้นำไปใช้แต่อย่างใด
ต่อมามีคนไทยที่สั่งสินค้าไปขายในออสเตรเลีย และกลุ่มขายสินค้าออนไลน์ อาทิ ครีม อาหาร เสื้อผ้า อุปกรณ์ทำกาแฟ และเครื่องครัวร้านอาหารไทย หลงเชื่อใช้บริการจำนวนมาก เนื่องจากค่าระวางราคาทั่วไปจะอยู่ที่ราคา 10 กว่าเหรียญสหรัฐฯ แต่บริษัทดังกล่าวคิดราคาแค่ 4 เหรียญสหรัฐฯ ถูกกว่ามาก แต่เมื่อส่งสินค้าไปแล้วไม่สามารถนำสินค้าออกจากท่าเรือได้ ติดต่อ “ป” ก็บ่ายเบี่ยงไม่สามารถนำสินค้าออกมาได้ ทำให้สินค้าตกค้างอยู่ที่ทางเรือ
น.ส.ปัญจาภรณ์เปิดเผยอีกว่า เคยพยายามช่วย “ป” เพราะสงสารคนอื่นๆ โดยบอกให้ “ป” มอบอำนาจให้ดำเนินการแทนแต่ก็ไม่ยอมดำเนินการอะไร บริษัท BBB ของตนที่ถูกแอบอ้างพลอยเสียหายไปด้วย ขาดความเชื่อถือจากลูกค้าโดยไม่เป็นธรรม จนกระทั่งล่าสุดทางบริษัทสายเรือ ได้ส่งอีเมลมาหาตนว่าทางบริษัท MD Import Export International Trading Pty จำกัด ได้สั่งให้ทำลายตู้สินค้าทิ้ง เนื่องจากถ้าเอาสินค้าออกจะต้องชำระเงินค่าระวางเป็นจำนวนหลายแสนบาท อีกทั้งยังไม่ได้รับค่าส่งสินค้าจากลูกค้าเลย เพราะตกลงกันไว้ว่า จะชำระค่าส่งสินค้าให้เมื่อได้รับสินค้าก่อนเท่านั้น จะทำให้ “ป” ขาดทุนหากนำสินค้าออกจากตู้ แต่ถ้าทำลายทิ้งเสียทาง “ป” ไม่ต้องจ่ายค่าระวางเรือ และค่าเก็บรักษา ส่วนทางสายเรือจะได้ค่าประกันภัยอีกด้วย
หลังจากฟัง น.ส.ปัญจาภรณ์ และผู้เสียหายร้องเรียนแล้ว นายชาลี กาญจนกุญชร รองกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ได้รับเรื่องร้องเรียนไว้ พร้อมทั้งแนะนำให้ผู้เสียหายรวบรวมรายละเอียดและหลักฐาน เข้าแจ้งความกับตำรวจ และติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจคนไทยประจำสถานีเดย์ สตรีท รับแจ้งความดังกล่าว
ที่มา:thairath