เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี นายชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เป็นประธานในงานร่วมแสดงความยินดีกับ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดชาวไทยหมายเลข 35 จากทีมอิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีมเอเชีย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแข่งไทยคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์จักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” ในรุ่นโมโตทู ในรายการอินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยมี “รองน้อย” นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ การกีฬาแห่งประเทศไทย, นายอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ร่วมแสดงความยินดีเกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด

นายชิเกโตะ คิมูระ กล่าวว่า ขอบคุณสมเกียรติที่สามารถนำชัยชนะมาสู่ทีมได้ ช่วงที่ผ่านมาทีมเจออุปสรรคในเรื่องของโควิด-19 แต่ตัวสมเกียรติก็ยังมุ่งมั่นฝึดกซ้อมไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค พยายามแข่งขันทำผลงานมาตลอด รวมถึงทางฮอนด้าก็พยายามสนับสนุนเช่นกัน หวังว่าในอนาคตจะได้รับความสำเร็จมากกว่านี้

ปธ.ฮอนด้า กล่าวต่อว่า ได้ทราบว่าสมเกียรตินั้นประสบอุบัติเหตุที่สนามแรกมาก็มีความกังวลอยู่บ้าง ในขณะที่สนามอินโดนีเซียนั้นเป็นสนามใหม่ ไม่เคยมีใครแข่งขันมาก่อนแต่สมเกียรติก็คว้าแชมป์ได้ กลายเป็นนักแข่งเอเชียที่คว้าชัยสนามในทวีเปเอเชีย สร้างประวัติศาสตร์ให้กับคนไทยได้ เป็นความภาคภูมิใจของชาวเอเชียเลยก็ว่าได้

นายชิเกโต คิมูระ กล่าวปิดท้ายว่า ตอนชมถ่ายทอดสดซึ่งเป็นภาษาญี่ปุ่น นักแข่งญี่ปุ่นยังชื่นชมสมเกียรติและตื่นเต้นที่ได้เห็นนักแข่งไทยก้าวขึ้นมาถึงระดับนี้ได้ ไม่คิดว่าจะมีคนไทยขึ้นไปคว้าแชมป์บนโพเดียมได้ ดังนั้นหลังจากนี้จะพยายามสนับสนุนนักแข่งรายอื่นๆ ต่อไปหวังว่าจะได้เห็นนักแข่งไทยขึ้นไปรับราวัลบนโพเดียมอีก

ด้านนายทนุเกียรติ กล่าวว่า การคว้าแชมป์ครั้งนี้นับเป็นการจุดประกายมอเตอร์สปอร์ตของไทย ทำให้ทุกคนได้ลิ้มรสความสุขหลังจากพยายามกันมาอย่างยาวนาน ตอนแรกคิดว่าจะไปเน้นที่สนามอาร์เจนตินา แต่กลับคว้าแชมป์สนามนี้ได้ สำหรับโครงการเรซทูเดอะดรีมที่ทางกกท.มีส่วนร่วมนั้น นี่นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีหลังจากทำกันมา 6 ปี ต่อไปจะมีทั้งนักแข่ง, บุคลกร ที่ก้าวไปสู่การเป็นอาชีพที่มากกว่าเดิม และเมื่อถึงวันที่สมเกียรติก้าวไปสู่การเป็นนักแข่งโมโตจีพีจะเป็นวันแห่งความภาคภูมิใจอย่างแท้จริงและนำซึ่งความสุขให้คนไทย

นายอารักษ์ กล่าวว่า เรื่องการผลักดันสมเกียรติขึ้นไปสู่โมโตจีพีคงต้องเป็นเรื่องของทีมว่าจะตัดสินใจอย่างไร ซึ่งจากเดิมโครงการของฮอนด้าวางเป้าหมายผลักดันนักแข่งไทยขึ้นไปสู่โมโตจีพีในปี 2025 ตอนนี้คิดว่าน่าจะมีโอกาสใกล้เคียงมากขึ้น และทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้

ด้านสมเกียรติ กล่าวว่า เดิมทีสนามนี้ไม่ได้ตั้งเป้าขนาดนี้เพราะวันพฤหัสยังไม่สามารถสวมถุงมือได้เลย เนื่องจากล้มที่สนามกาตาร์ ต้องป่าตัดที่นิ้วก้อยข้างซ้าย ตอนซ้อมก็พยายามหาจุดที่เจ็บน้อยที่สุด และก็ทำงานร่วมกับทีม สภาพตอนนี้คิดว่าน่าจะดีขึ้น 80-90 เปอร์เซ็นต์ อีก 3 วันน่าจะได้ตัดไหมออกได้ ต้องยอมรับว่าสนามอินโดนีเซียนั้นดูเหมือนง่ายแต่เป็นสนามที่ยาก ที่จะทำเวลาให้ได้คงเส้นคงวาขนาดนี้

นักบิดหมายเลข 35 กล่าวต่อว่า เป้าหมายอีก 19 สนามที่เหลือจะพยายามมีคะแนนให้ได้ทุกสนามและติดโพเดียมให้ได้มากที่สุด สนามที่คิดว่าน่าจะติดโพเดียมได้น่าจะเป็นสนามที่อาร์เจนตินา, ออสเตรีย, บาร์เซโลน่า รวมถึงสนามที่บุรีรัมย์ เพราะจากที่ได้ลงแข่งมาหลายปีคิดว่าเริ่มปรับตัวเข้ากับสนามได้แล้ว

“มั่นใจที่สุดคงยกให้สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กับออสเตรีย ที่สนามเร้ดบูลล์ วิงส์ ส่วนสนามที่อาร์เจนตินาเคยได้อันดับ 10 มา ก็มั่นใจมากขึ้น แต่ไม่กดดันใดๆ แม้จะเพิ่งคว้าแชมป์มา เพราะเรื่องความกดดันมันมีตั้งแต่ช่วงปีแรกๆ จนตอนนี้ไม่มีแล้ว”

เมื่อถามถึงว่าคิดว่าตัวเองจะใช้เวลาอีกกี่ปีในการจะก้าวขึ้นไปถึงการเป็นนักแข่งโมโตจีพีนั้น สมเกียรติ ตอบว่า “ถ้าเป็นไปได้จริงก็อยากจะขึ้นไปปีหน้าเลย เพราะว่าพร้อมแล้ว”
ทั้งนี้ สนามต่อไปของ สมเกียรติ จันทรา นั้นจะลงแข่งขันในศึกรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” ในรุ่นโมโตทู สนามที่ 3 รายการอาร์เจนตินา กรังด์ปรีซ์ ที่ประเทศอาร์เจนตินา ในวันที่ 31 มีนาคม-3 เมษายน

ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวสดกีฬา