วันที่ 3 เม.ย. บีบีซี รายงานสถานการณ์การรุกรานยูเครนของกองทัพรัสเซียที่ยืดเยื้อเข้าสู่เดือนที่สองว่า ทางการยูเครนระบุว่า กองทัพยูเครนยึดคืนพื้นที่ทั้งหมดรอบกรุงเคียฟแล้ว และว่ากองทัพรัสเซียถอนออกไปอย่างรวดเร็วจากรอบกรุงเคียฟ
ทหารยูเครนตรวจสอบถนนเพื่อหากับดักระเบิดในเมืองบูชา ย่านชานเมืองของกรุงเคียฟ / AP
ฮันนา มาเลียร์ รัฐมนตรีช่วยกลาโหมยูเครน ระบุว่า แคว้นเคียฟทั้งหมดได้รับการปลดปล่อยจากผู้รุกรานแล้ว”
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังการต่อสู้อย่างดุเดือดในหลายเมืองและหมู่บ้านรอบเมืองหลวงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่รัสเซียวาดภาพการถอนกองกำลังใกล้กรุงเคียฟเป็นการแสดงเจตจำนงในการเจรจาสันติภาพ แต่นักวิเคราะห์ฝั่งตะวันตกระบุว่า การรุกคืบของรัสเซียชะงักมาก่อนหน้านี้แล้ว
สะพานที่ได้รับความเสียหายในเมืองบูชา / AP
รายงานระบุว่า พื้นที่หลักที่กองทัพรัสเซียถอนออกไป ได้แก่ เมืองอีร์ปิน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ ทางการยูเครนระบุว่า พลเรือนถูกสังหารอย่างน้อย 200 ราย ตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.
ส่วนเมืองบูชา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ กองทัพยูเครนเคลื่อนเข้าไปเมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมา หลังไม่สามารถเข้าถึงได้เป็นเวลาเกือบ 1 เดือน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานการพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย บนถนนสายเดียว ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองบูชาระบุว่า ผู้เสียชีวิต 280 ราย ถูกฝังหมู่ในสุสานของเมือง และเมืองนี้เกลื่อนไปด้วยร่างผู้เสียชีวิต
ซากเครื่องบินอันโตนอฟ อัน-225 มรียา ในโรงเก็บเครื่องบินในเมืองฮอสโมเตล / AP
ขณะที่เมืองฮอสโมเตล ใกล้กรุงเคียฟเช่นกัน ซึ่งเกิดการต่อสู้อย่างหนักตั้งแต่เริ่มต้นสงครามเพื่อเข้าควบคุมสนามบิน ตอนนี้กองทัพรัสเซียถอนออกไปจากสนามบินแล้ว เหลือแต่ซากเครื่องบินอันโตนอฟ อัน-225 มรียา เครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในโรงเก็บเครื่องบิน เป็นของดูต่างหน้า
Ukrainian President’s Office
ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี กล่าวในวิดีโอเตือนว่า รัสเซียต้องการยึดแคว้นทางตะวันออกและทางใต้ของยูเครน
“เป้าหมายของกองทัพรัสเซียคืออะไร ต้องการยึดทั้งดอนบาส และทางใต้ของยูเครน เป้าหมายของเราคืออะไร ปกป้องตนเอง เสรีภาพ แผ่นดิน และประชาชนของเรา” นายเซเลนสกีกล่าวและยกย่องกองทัพยูเครนที่ปกป้องเมืองมารีอูโปล เมืองท่าที่ถูกกองทัพรัสเซียปิดล้อม
นายเซเลนสกีกล่าวด้วยว่า การต่อต้านของยูเครนในเมืองมารีอูโปลและเมืองอื่นๆ ของยูเครนทำให้รัฐบาลบูเครนได้รับเวลาอันมีค่าซึ่งช่วยให้ขีดความสามารถทางทหารของรัสเซียอ่อนแอลง
ล่าสุด รอยเตอร์ รายงานว่าเกิดระเบิดดังสนั่นและควันไฟพวยพุ่งในเมืองโอเดซา เมืองท่ายุทธศาสตร์ ริมชายฝั่งทะเลดำ ทางใต้ของยูเครน ขณะที่เซอร์ฮี บราชุค โฆษกฝ่ายบริหารกองทัพระดับแคว้นโอเดซา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก เรียกร้องให้ชาวเมืองอยู่ในที่พักพิง “เราจะเอาชนะ นรกสู่ศัตรู!”
ที่มา khaosod