หวั่นคลัสเตอร์ บิ๊กตู่ แจงเปลี่ยนรูปแบบรดน้ำดำหัวสงกรานต์เฉพาะรัฐบาล ห่วงโควิดระบาด กำชับเดินทางช่วงเทศกาล อย่าฝ่าฝืนกฎหมาย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 เม.ย.2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานรดน้ำดำหัวช่วงเทศกาลสงกรานต์ในวันที่ 12 เม.ย. เดิมได้เชิญพรรคร่วมรัฐบาล และส.ว.เข้าร่วม เปลี่ยนเป็นรูปแบบให้แต่ละหน่วยงานจัดเป็นภายในว่า มีการหารือกันในครม.และพรรคร่วมรัฐบาล อยากถือโอกาสมาเจอกัน แต่ตนดูแล้วว่าสถานการณ์ปัจจุบันไม่ควร ตนได้บอกยกเลิกไปแล้ว ทั้งเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ความเหมาะสม จึงให้แต่ละหน่วยงานไปจัดตามมาตรฐาน covid Free setting โดยจะทำบุญและรดน้ำภายในของรัฐบาล
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าส่วนตัว ใครอยากมาก็มาได้ แต่ต้องผ่านการคัดกรอง ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย หากมากันเป็นคณะใหญ่ ตนมองว่าไม่เหมาะสม ซึ่งตนได้คุยกับหัวหน้าพรรคทุกพรรค รวมถึงเรียนนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดิมต้องการให้เห็นภาพว่าเราสามัคคีกันทั้ง 3 อำนาจ บริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ นานๆได้มาเจอกัน ได้รดน้ำ ขอพรกันและกัน แต่สถานการณ์ไม่เหมาะสม ฉะนั้นอย่าทำเลยดีกว่า
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนได้ติดตามและตัดสินใจ อะไรดี อะไรไม่ดี อะไรเหมาะสม ไม่เหมาะสม วันนี้มีอย่างเดียวที่ตนห่วงและอยากเตือน คือการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ การใช้รถใช้ถนน ซึ่งเป็นภาระของทุกหน่วยงาน จัดคนไปเฝ้าดูแลทุกถนนหนทาง ไม่ได้พักผ่อน และสถิติการเสียชีวิตก็ยังมาก หรือลดลงได้เพียงเล็กน้อย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้ใช้รถใช้ถนน หากรักตัวเองรักครอบครัว ก็จะต้องระมัดระวังและรักคนอื่นด้วย อย่าฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ปัญหาเกิดขึ้นเยอะ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ หากไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 คงจะดีกว่านี้ แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทุกประเทศเจอกันหมด ทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน ขอให้ติดตามจากสื่อที่มีมาตรฐาน ซึ่งตนติดตามทุกวัน ทั้งจาก CNN ตนฟังทั้งสองฝ่าย
หน้าที่ของเราคือทำอย่างไรให้สถานการณ์สงบลง ไม่ใช้อาวุธสงครามระหว่างกัน ดูแลเรื่องมนุษยธรรม เราก็ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังยูเครน ผ่านสภากาชาด พร้อมมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ตามพันธสัญญาต่างๆ เราก็ต้องเคารพ วันนี้ต้องดูให้ดีว่าเราทำได้แค่ไหนอย่างไร ไม่ใช่เน้นเหตุการณ์บานปลายไปเรื่อยๆ จะส่งผลกระทบกับทุกประเทศในโลกใบนี้ ถ้าประชาชนเดือดร้อนก็จะลำบาก
“ขอให้สื่อมวลชนเสนอข่าวที่เป็นประโยชน์ ให้บ้านเมืองสงบเสียที หากบ้านเมืองไม่สงบ ข้างนอกไม่สงบด้วย ก็จะไปกันใหญ่ จะทำให้ความรักความสามัคคีนั้นหายไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ที่มา khaosod