อย่าหลงเชื่อ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้าง ส่งภาพ “ผบ.ตร.” ข่มขู่หลอกโอนเงิน ตำรวจเชียงใหม่ เร่งติดตามดำเนินคดีกรณีหลอกลวงแม่ค้า
จากกรณีแม่ค้าขายขนม ที่ศูนย์การค้ากลางเมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกให้โอนเงินโดยนำภาพ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.มาใช้ในการข่มขู่ จนเหยื่อหลงเชื่อและโอนเงินไปให้ เมื่อวันที่ 7 เม.ย. พ.ต.อ.ไพศาล นันตา โฆษกตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.แม่ปิง จว.เชียงใหม่ และให้การว่า คนร้ายใช้วิธีการเดิมในการแอบอ้าง
“วิธีการของคนร้ายโทรศัพท์ติดต่อเข้ามา อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์จังหวัดเชียงราย มีพัสดุเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ส่งไปยังประเทศจีน ซึ่งถูกอายัดไว้ และโอนสายให้คุยกับชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจระดับสารวัตร พร้อมทั้งยังส่งรูปภาพของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาทำการข่มขู่ ทำให้แม่ค้าขายขนมรายนี้ เกิดความหวาดกลัวว่า จะถูกจับกุมดำเนินคดี จึงยอมโอนเงินจำนวน 2,000 บาท ที่เตรียมจะนำไปซื้อสมุด และหนังสือให้ลูกชาย ไปให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์”
โฆษกตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และผู้ร่วมกระทำการมาดำเนินการตามกฎหมาย
“ในเบื้องต้นไปประสานธนาคารผู้รับโอน เพื่อขออายัดบัญชีแล้ว และจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาต่อไป ซึ่งดำเนินการดังกล่าวร่วมกับการประชาสัมพันธ์ข่าวสาร พฤติการณ์ใหม่ๆ ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลามาแจ้งยังพี่น้องประชาชนทราบอย่างต่อเนื่องซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญเพื่อป้องกันการเกิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ขอให้ประชาชนได้ติดตามข่าวสารของทางราชการและบอกต่อญาติและครอบครัวเพื่อป้องกันมิให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเหล่านี้ได้โดยง่าย”
สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เปิดช่องทางการแจ้งความออนไลน์เฉพาะคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเข้าถึงบริการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้อย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับบริบทในยุคชีวิตวิถีใหม่ (New normal) โดยสามารถแจ้งความออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ https://www.thaipoliceonline.com ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลระบบคัดกรอง และส่งต่อคดีความแก่สถานีตำรวจพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อติดต่อผู้เสียหายและนัดเข้าให้ปากคำตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป.
ที่มา thairath