คาร์ลอส เซซาร์ เฮดโค้ชฟุตซอลทีมชาติไทย เปิดใจหลังพาโต๊ะเล็กช้างศึก พิชิต อินโดนีเซีย คว้าแชมป์อาเซียน มาครองเป็นสมัยที่ 16
วันที่ 11 เม.ย. 65 ความเคลื่อนไหวหลังจากที่ ทีมชาติไทย บดสู้กับ ทีมชาติอินโดนีเซีย อย่างสนุกสุดมัน เสมอกัน 2-2 จนยืดเยื้อไปถึงการดวลจุดโทษ ก่อนที่ ทีมชาติไทย จะดวลจุดโทษชนะ อินโดนีเซีย ไป 5-3 สกอร์รวม 7-5 คว้าแชมป์อาเซียน 2022 มาครองได้สำเร็จครองและถือเป็นสมัยที่ 16 ที่ไทยทำได้
หลังจบเกม โค้ชเซซาร์ กล่าวว่า “มันเป็นเกมที่สำคัญมากๆสำหรับผู้เล่นสายเลือดใหม่ของเราที่ได้เรียนรู้หลายๆอย่างมากๆสำหรับเกมนี้ เราคือผู้ชนะและต้องบอกว่าอินโดนีเซียเป็นคู่ต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมมากๆในปีนี้ นี่คือฟุตซอลสมัยใหม่ แม้แต่ในระดับโลกแต่ละทีมมันก็ไม่ได้ห่างกันมากแล้ว อยากให้แฟนๆชาวไทยเข้าใจและซัพพอร์ตนักเตะต่อไป ขอมอบแชมป์และกับฟุตซอลที่เข้ามาเชียร์และดูอยู่ขอบคุณทุกแรงเชียร์ที่มีให้กับเรา”
ขณะที่ โมฮัมหมัด ฮาเชมซาเดห์ เฮดโค้ชอินโดนีเซีย กล่าวว่า “ถือเป็นเกมสุดระทึก ผมขอชื่นชมพูดเล่นอินโดนีเซียทุกคนพวกเขาทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมมากๆ นับว่าน่าเสียดายที่เราไม่สามารถเอาชนะทีมชาติไทยในเวลา แต่ฟุตซอลก็คือเกมในลักษณะนี้ เราแพ้แต่เราก็ยังมีอีกหลายจุดต้องพัฒนา”
“ผู้เล่นของเราเป็นผู้เล่นหน้าใหม่หลายคนบางคนยังอายุไม่ถึง 21 ปีและผมเองก็เพิ่งเข้ามาคุมทีมไม่นานผมคิดว่าอินโดนีเซียชุดนี้ก็ยังมีอีกหลายหลายจุดที่ต้องปรับปรุงแต่การที่เราเสมอกับทีมชาติไทยได้ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะพัฒนาตัวเองต่อไป”
“ในมุมมองของผมทีมชาติไทยเป็นทีมที่แข็งแกร่งอยู่ตลอดกาลในอาเซียนผมรู้ว่าชุดนี้นักฟุตซอลทีมชาติไทยมีผู้เล่นหน้าใหม่หลายคนและกำลังที่จะผลักดันสายเลือดใหม่แต่ฟุตซอลทีมชาติไทยมีระบบการพัฒนาที่ดีและตัวผู้เล่นก็ลงตัว ผมคิดว่าจากนี้ทีมชาติไทยก็จะยังสามารถพัฒนาขึ้นได้อีกและเช่นกันอินโดนีเซียก็จับพัฒนาเพื่อให้ก้าวสู่เอเชียไปพร้อมพร้อมกับทีมไทย”
“ส่วนในศึกซีเกมส์ที่เราจะต้องเจอกันอีกครั้งนั้นเมื่อถึงตอนนั้นผมคิดว่าเราจะมีเวลาในการเตรียมทีมมากขึ้นเราจะมีเกมอุ่นเครื่องเพื่อทดสอบตัวผู้เล่น ตัวผมเองค่อนข้างให้ความสำคัญกับซีเกมส์เพราะถือเป็นรายการที่จัดเตรียมความพร้อมไปสู่ศึกฟุตซอลชิงแชมป์เอเชียรอบสุดท้ายซึ่งนั่นคือเป้าหมายหลักของเรา และเมื่อเสร็จสิ้นในศึกซีเกมส์เราก็จะมีทัวร์นาเม้นท์อุ่นเครื่องเพื่อให้เรามีผลงานที่ดีที่สุดในศึกชิงแชมป์เอเซียที่กำลังจะเกิดขึ้น”
“การพัฒนาทีมชาติอินโดนิเซีย ผมคิดว่ายังต้องใช้เวลาอีกมากและคงยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ที่เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทีมชาติอินโดนิเซียที่ชัดเจนขึ้นแต่นี่ก็คือนิมิตรหมายที่ดีมากแล้ว”
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐสปอร์ต