พายุฝนกระหน่ำพื้นที่ ต.ดอยลาน อ.เมือง จ.เชียงราย ทำให้ร้านวัสดุก่อสร้างถูกพัดล้มทั้งหลัง ทรัพย์สินเสียหายนับล้านบาท โชคดีเกิดตอนกลางคืนไม่มีคนงานอยู่ ขณะที่ ต้นไม้และเสาไฟฟ้าริมถนนล้มหลายจุด
เมื่อเวลาประมาณ 21.15 น. วันที่ 17 เม.ย. 65 ที่ผ่านมา เกิดพายุฝนกระหน่ำในพื้นที่ ต.ดอยลาน อ.เมืองเชียงราย โดยมีลมพัดแรง ทำให้มีต้นไม้ล้มขวางถนน ตั้งแต่ช่วงบ้านร่องดู่ไปถึงบ้านโป่งเกลือ และมีรายงานว่ามีลูกเห็บตกลงมาด้วย หลังจากพายุพัดถล่มได้ประมาณ 45 นาที จึงสงบลง ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมวดทางหลวงป่าแดด หมวดทางหลวงห้วยสัก งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทต.ดอยลาน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาย่อยห้วยสัก พร้อมทั้งหน่วยกู้ชีพดอยลานธรรมนันท์ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบมีต้นไม้ล้มขวางถนนหลายจุด เจ้าหน้าที่จึงนำเลื่อยยนต์มาตัดต้นไม้ที่ล้มขวางถนน และได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านที่มีรถไถ ได้นำเอารถมาดันเศษต้นไม้ลงข้างถนนไม่ให้ขวางทางจราจร และพบว่ามีสายไฟที่ถูกต้นไม้ล้มฟาดได้รับความเสียหาย สายไฟขาดหลายจุด เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจำเป็นต้องดับไฟเป็นแนวยาวตั้งแต่ช่วง ต.ห้วยสัก ไปถึง ต.ดอยลาน เป็นระยะทางประมาณ 10 กม.
เบื้องต้นพบว่ามีร้านวัสดุก่อสร้างชื่อ “ร้านทิพย์ลานนาวัสุสดุก่อสร้าง” เลขที่ 149 ม.16 บ้านร่องดู่ ต.ดอยลาน อ.เมืองเชียงราย ที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนอย่างรุนแรง เพราะถูกพายุพัดร้านค้าล้มลงทั้งหลัง โชคดีไม่มีคนอยู่ภายในร้าน เลยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
นางกนกทิพย์ จันต๊ะนาเขต อายุ 50 ปี กล่าวว่า ช่วงเกิดพายุตนกำลังนอนพักผ่อนอยู่คนเดียวภายในบ้าน ซึ่งอยู่แยกจากตัวร้านค้าไปไม่ไกล และยังมีคนงานอีกหนึ่งครอบครัว ประกอบด้วย พ่อ แม่ และลูก 2 คน พักอยู่ที่บ้านคนงานอีกหลังซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน พอประมาณสามทุ่มกว่าก็มีลมพายุพัดแรงนานประมาณครึ่งชั่วโมง และได้ยินเหมือนเสียงอะไรสักอย่างถูกพัดล้ม แต่พอลมพายุสงบลงตนจึงออกมาดูความเสียหาย ก็พบว่าร้านขายวัสดุก่อสร้างของตน ซึ่งก่อสร้างเป็นโครงเหล็กล้อมด้วยเมทัลซีถูกพัดล้มทั้งหลัง วัสดุก่อสร้างเกือบทั้งหมดที่อยู่ในร้านได้รับความเสียหาย มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 1 ล้านบาท
“โชคยังดีที่ลมพายุไม่ได้มาในช่วงกลางวัน เพราะตอนกลางวันจะมีคนงานอยู่ภายในร้านไม่ต่ำกว่า 10 คน” นางกนกทิพย์ กล่าว
เนื่องด้วยความมืด แสงสว่างไม่เพียงพอ และยังมีโอกาสที่ฝนจะตกลงมาซ้ำ ทางฝ่ายปกครองและอปท.ในพื้นที่จึงยังไม่สามารถสำรวจความเสียหายจากลมพายุในครั้งนี้ได้ทั้งหมด และจะเร่งให้แต่ละชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากลมพายุดังกล่าวให้ทำการสำรวจและส่งข้อมูลให้ฝ่ายปกครอง และ อปท. เพื่อจะดำเนินการช่วยเหลือต่อไป.
ที่มา thairath