ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช ประธานสโมสร ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ประกาศลบคลิปตำหนิสนามซ้อมบุรีรัมย์ แม้ไม่ผิดกฎหมาย-พร้อมถก 4 ประเด็นสำคัญละเอียดยิบ

วันที่ 18 เม.ย. 65 หลังจากเกิดประเด็นดราม่าสนามซ้อมที่จังหวัดบุรีรัมย์เพื่อใช้เตรียมแข่งขันสำหรับทีมที่ได้สิทธิ์ลุยศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก กลุ่ม เจ และ เอฟ รวม 7 ทีม โดยหนึ่งในนั้นมี “กว่างโซ้งมหาภัย” ที่ลงแข่ง 

อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่ง สโมสร ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ได้ลงคลิปวิจารณ์สนามซ้อมของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยมีใจความสำคัญว่า “สนามคุณภาพค่อนข้างแย่ ลงหญ้าเต็มแต่สภาพไม่เหมือนสนามแข่ง กังวลว่าจะทำให้นักเตะบาดเจ็บ” 

จากนั้นได้มีการตอบโต้กันไปมาของ ผู้บริหารทั้งสองฝ่ายจนกระทั่งมาจบที่ การเข้าปรับปรุงสนาม โดยมีการโพสต์คลิปผ่านเพจเฟซบุ๊ก “ลุงเนวิน” 

และเมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา “กว่างโซ้งมหาภัย” ลงแข่งเกมแรกในรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เจ พ่าย คิตฉี เอสซี ไป 0-1 

ล่าสุด “ประธานฮาย” ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช ประธานสโมสร ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ออกมาโพสต์ถึงดราม่าดังกล่าวว่า 

เมื่อวานเราแพ้
ยอมรับว่าเราทำได้ไม่ดีพอ และพร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขต่อไป
ต้องกราบขออภัยแฟนฟุตบอลเชียงรายฯ และแฟนฟุตบอลไทย ที่ยังไม่สามารถเก็บแต้มแรกในนัดแรกของ ACL2022 นี้ได้
ทัวร์นาเมนต์นี้ยังไม่จบและจะขอสู้จนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้ายค่ะ
สู้ด้วยกันก่อนนะคะ เข้มแข็ง อดทนต่อสู้ไปด้วยกัน 

ประเด็นต่อมา คือเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในโซเชียลมีเดีย

ฮายขอเป็นคนเล่าไทม์ไลน์ในมุมของฮายเอง ดังต่อไปนี้ค่ะ
เหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความไม่พอใจ น่าจะสืบเนื่องจาก ทางสโมสรฯ ได้ปล่อยคลิปซ้อมในวันแรก วิพากษ์วิจารณ์สภาพพื้นสนามใจความว่า ค่อนข้างแย่มาก และอาจมีผลทำให้นักกีฬาบาดเจ็บ
ซึ่งโดยปกติแล้ว เราได้ทำรีวิว สนามซ้อม สนามแข่ง ห้องแต่งตัว ในทุกการแข่งขัน ACL ทั้งกาตาร์ และอุซเบฯ ไม่ใช่แค่ที่บุรีรัมย์เท่านั้น
สามารถค้นหาคลิปได้ทาง FB หรือ

ชมคลิปที่นี่

เนื่องจากการรีวิวเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งสิ่งดี และสิ่งไม่ดีตามปกติ โดยวิจารณ์สภาพของสิ่งนั้น ไม่ใช่การวิจารณ์หรือตำหนิตัวบุคคล ซึ่งกฎหมายก็อนุญาตให้ทำได้
โดยที่ไม่ได้นึกถึงประเด็นเรื่องความ sensitive จากการที่อยู่ร่วมลีกประเทศเดียวกัน จึงทำให้ผู้เกี่ยวข้องกับสโมสรบุรีรัมย์ฯ ไม่พอใจ

ฮายในฐานะผู้นำ มีตำแหน่งประธานสโมสร กราบขออภัยทุกท่านทำให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจ
และขอแก้ไขในปัจจุบันด้วยการให้ลบคลิปดังกล่าวออกจากโซเชียลมีเดียของสโมสร เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย และระมัดระวังตรวจสอบ ในเรื่องของการสื่อสารผ่านช่องทางของสโมสรให้ดีและพัฒนายิ่งขึ้นต่อไปค่ะ ต้องขออภัยที่ทำให้ขุ่นหมองจากใจค่ะ

จากนั้นจึง ได้มีผู้เกี่ยวข้องกับสโมสรบุรีรัมย์ฯ โพสต์ใจความว่า ถ้าแพ้ขึ้นมาจะได้อ้างสนามบุรีรัมย์ใช่หรือไม่
และได้ย้อนกลับไปกล่าว ถึงวันที่บุรีรัมย์ฯ เตรียมงานฉลองแชมป์ในบ้าน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่า ไม่เห็นโพสต์ภาพห้องแต่งตัวที่เก็บเรียบร้อยเหมือนที่บุรีรัมย์

โพสต์ล่าสุดของฮาย จึงเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในวันนั้น สามารถอ่านได้จากลิงก์นี้ค่ะ

คลิกที่นี่

เหตุการณ์ในวันนั้น ฮายและทีมงานทุกคนรู้สึกภูมิใจในตัวเอง ที่ไม่ได้ตอบโต้ ต่อผู้นั้นที่ด่าพวกเรา ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ในช่วงระหว่างแข่งขันอยู่
และหลังจากเก็บกวาดห้องเสร็จ ฮายก็ออกจากห้อง
ก่อนกลับก็ได้ยกมือไหว้และลากลับ

น่าจะสามารถย้อนดูกล้องวงจรปิดได้ ตลอดทั้งอุโมงค์ ทางเดิน เพราะแม้แต่ในห้องพักนักกีฬาทีมเยือน ก็เห็นวัตถุคล้ายกล้องวงจรปิดที่ฝ้าเพดาน
คำถามแรกที่ฮายอยากถามและเชื่อว่าหลายสโมสรก็สงสัยว่า สิ่งที่ติดอยู่ในห้องนั้น คือกล้องวงจรปิดใช่หรือไม่ และมีการบันทึกภาพและเสียงหรือไม่คะ

ส่วนเรื่องการทำความสะอาดห้องพักนักกีฬาหลังแข่งนั้น ถ้าฮายอยู่ ฮายจะตรวจเช็คเป็นคนสุดท้ายทุกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าเรียบร้อยดี และไม่ต้องเป็นภาระแก่เจ้าบ้าน
มีถ่ายภาพเก็บไว้ในแต่ละสนาม ซึ่งได้โพสต์บ้างไม่โพสต์บ้าง แต่ไม่ได้เป็นประเด็นขึ้นมาเหมือนเช่นครั้งนี้ แต่มั่นใจว่านี่คือสิ่งที่ทำอยู่เป็นปกติ
เพราะแม้แต่สนามซ้อม ACL ทั้งกาตาร์ และอุซเบฯ ฮายก็ให้ความสำคัญเรื่องเก็บกวาด เก็บขยะให้เรียบร้อย เป็นเรื่องที่ฮายให้ความสำคัญมาก ทีมงานทุกคนรู้ดี เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่แม่บ้านและไม่ให้ทีมที่มาซ้อมต่อต้องเสียเวลารอ
แต่ประเด็นน่าจะเกิดจาก แคปชั่นใจความว่า เก็บห้องไม่ได้เก็บโต๊ะ ซึ่งหากข้อความนั้นมีผลกระทบต่อจิตใจ ฮายต้องขออภัยอีกครั้งค่ะ

ประเด็นที่ฮายโพสต์ว่า ต้องวัดกันที่รุ่นลูก เนื่องจากว่า ฮายไม่ต้องการให้กล่าวถึงพ่อ เพราะพ่อไม่ได้มาด้วยค่ะ หากเป็นการคุยกันระหว่างรุ่นลูก ค่อนข้างปกติทั่วไป และไม่มีคำหยาบคายอีกด้วยค่ะ ไม่น่าจะมีปัญหาบานปลายต่อไป

ยกตัวอย่างเหตุการณ์
ฮายเคยเจอรุ่นลูก ระหว่างที่ฮายกำลังต่อคิวถ่ายภาพกับสปอนเซอร์ โดยในมือฮาย ถือถ้วยแชมป์ไทยลีก 2019 เขาก็บอกว่า เดี๋ยวไปทวงคืนนะ ในครั้งนั้นที่เจอกัน ฮายได้ยิ้มให้ค่ะ และคิดว่าเป็นสีสันปกติ ไม่มีประเด็นต้องมาโพสต์ในตอนนั้น
และเจอรุ่นลูกอีกครั้งหนึ่ง ในงานประชุมประธานสโมสร ที่จัดโดย AFC/FIFA ก็เป็นปกติดีค่ะ
ฮายคิดและขอย้ำว่า ถ้ารุ่นลูกคุยกัน นั้นเป็นปกติดี ไม่มีปัญหาค่ะ

ประเด็นที่แฟนบอลหลายท่านบอกว่า กระดูกคนละเบอร์ ฮายคิดว่าก็จริงค่ะ และไม่มีความจำเป็นต้องข้ามรุ่น

สำหรับประเด็นที่ว่า มีอะไรให้บอกลุง
หากย้อนกลับไปประโยคที่คุณลุงคุยกับฮายยาวที่สุด คงเป็นคำว่า ขอบใจนะสำหรับของขวัญวันเกิด ซึ่งเป็นคำพูดในฤดูกาลที่แล้ว ที่บุกชนะเชียงรายฯ และได้กล่าวท่ามกลางทีมงานของฮายในอุโมงค์นักเตะ

การที่เจอคำพูดเช่นนั้น ต่อมาเจอคำด่า
ถ้าจะให้พวกเราเข้าใจและสื่อถึงความเมตตาหรือหวังดี ฮายก็เชื่อว่า มีคำพูดที่ดีกว่านี้ให้แก่กันได้ค่ะ อย่างเช่น ไม่ว่าคุณลุงจะทราบหรือไม่ทราบล่วงหน้าว่าบุรีรัมย์จะได้จัดทั้งสองกลุ่ม อาจจะแจ้งพวกเราให้ทราบ หรือกล่าวเพียงว่า อย่างน้อยก็เมืองไทยเหมือนกันนะ

ฮายมั่นใจว่าพวกเราทุกคนไม่เคยพูดจาหยาบคายหรือแม้แต่พูดจาไม่ดีเวลาพบเจอกัน และยกมือไหว้ตลอด คำถามที่สองคือ ในเวลาที่เจอหรือคุยกัน เราจะสื่อสารโดยเคารพให้เกียรติกันได้หรือไม่ ในฐานะเพื่อนมนุษย์ค่ะ

ประเด็นเรื่องมาตรฐานของ AFC
ในเมื่อมีประเด็นเรื่องที่ว่า สภาพสนามซ้อมทั้ง 4 สนาม ควรจะต้องพร้อม ก่อนเวลาที่ทุกทีมในกลุ่มจะมาถึง โดยเหตุผลที่เชียงรายถูกปฏิเสธ เพราะสนามซ้อมของเชียงราย”คงจะ”ไม่พร้อมก่อนเวลานั้น

เมื่อเห็นสภาพสนามที่นี่ ทางเราก็ได้รีบประสานไปยังผู้ประสานงาน ซึ่งไม่แน่ใจว่าเบื้องหลัง คือ ทีมงานจาก AFC ทีมงานของทางสมาคมฯ หรือทีมงานของทางบุรีรัมย์ฯ ว่าสามารแก้ไขอย่างไรได้บ้าง จากข้อเท็จจริง ในที่ประชุมอย่างเป็นทางการ ก็มีการรายงานจากหลายสโมสรแจ้งเช่นว่า พื้นไม่เรียบ ช่วยรดน้ำให้ก่อนซ้อม น้ำไม่ไหล หรือ ช่วยเพิ่มไฟ เป็นต้นค่ะ

ต่อมา ทราบว่าทางบุรีรัมย์ฯ ได้ช่วยแก้ไขพื้นสนามให้ ฮายต้องขอขอบพระคุณมากที่ช่วยปรับให้นักกีฬาทุกทีมได้ประโยชน์ไม่ใช่แค่เชียงรายค่ะ

คำถามที่สามก็คือ มาตรฐานที่ว่า สนามซ้อมจำนวนทั้งหมด 4 สนามต้องพร้อมก่อนทุกสโมสรจะเดินทางมาถึง
ในเคสนี้ ทำไมถึงสามารถประเมินให้ผ่านก่อน และมาปรับภายหลังได้ เป็นคำถามถึง AFC หรือทางไหนจะให้คำตอบได้ ยินดีรอฟังค่ะ

ในเมื่อเราเองยืนยันว่า เราพร้อมก่อนงานจะเริ่ม และพร้อมก่อนทุกทีมจะเดินทางมาถึงแน่นอนเช่นกัน

คำถามที่สี่คือ กระบวนการทำงานที่นี่ ในทัวร์นาเมนต์ ACL หากมีเรื่องต้องปรับปรุง ต้องแจ้งผ่านเจ้าหน้าที่ AFC หรือแจ้งผ่านเจ้าหน้าที่บุรีรัมย์ หรือแจ้งผ่านคุณลุงคะ
และสโมสรอื่น มีสิทธิ์แจ้งคุณลุงโดยตรงด้วยไหม

นี่คือสิ่งที่ฮายตั้งคำถามเกี่ยวกับงานฟุตบอลที่ฮายทำอยู่ และต้องเผชิญ

โพสต์ต่อๆ ไปอาจจะมีคำถาม ที่ฮายต้องการถามในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ก็เป็นไปได้ค่ะ

ในประเทศที่เราอาจต้องทวงความยุติธรรมผ่านโหนกระแส
ในโลกที่รีวิวข้อดีข้อเสียได้ มีเสรีภาพในการพูด
ต่อเมื่อกฎหมายไม่ได้ห้าม
ในโลกที่ทวงความยุติธรรมผ่านสื่อออนไลน์
ฮายเชื่อว่า สื่อช่วยเร่งปฏิกิริยาได้ด้วยเช่นกันค่ะ

สิ่งที่ประทับใจในการอยู่ที่บุรีรัมย์คือ โรงแรมดี พนักงานดูแลดีมาก มีภาพให้กำลังใจพวกเราก่อนไปแข่งด้วย รีวิวสนามเขากระโดงว่าสภาพดี และแฟนบอลบุรีรัมย์หลายคนก็น่ารักมาก
ฮายได้มิตรภาพและคลิปน่ารัก ๆ เพิ่มจากแฟนบุรีรัมย์ใน Instagram จำนวนมาก
ฮายขอยืนยันว่าพวกเราไม่มีเจตนาที่ไม่ดีต่อแฟน ๆ บุรีรัมย์ค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามและให้กำลังใจค่ะ

พิเศษถึงแฟนๆ กราบเรียนแฟนบอลเชียงรายฯ ฮายต้องขออภัยที่ฮายต้องออกมาต่อสู้ตลอดเวลา และทำให้เหนื่อยหรือห่วง
แต่ด้วยความเป็นนักสู้ และรักที่ตัวเองเป็นแบบนี้
ฮายพร้อมเป็นผู้นำ ชนในสิ่งที่ควรชน
ขอโทษและแก้ไขในสิ่งที่ผิด ให้กับทุกคนที่ฮายนำอยู่

ฮายอยู่กับนักฟุตบอลและสตาฟทุกนัด ไม่เคยพลาด ฮายไม่เกี่ยงงานและอยู่เคียงข้างทีมตลอด 3 ปี จนฮายเชื่อว่าทุกคนรู้ดีถึงความเป็นนักสู้ของฮาย ซึ่งไม่หวั่นไหวง่ายบรรยากาศตอนนี้ยังคงดี และวันนี้มีกิจกรรมในแคมป์เพื่อผ่อนคลายค่ะ
พวกเราไหวและพร้อมสู้ต่อค่ะ

ถ้ามีใครถามว่า ฮายกลัวไหม ยังอยู่ที่นี่แบบนี้
ฮายตอบได้เลยว่า ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรผิด
ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวค่ะ ถ้ามีเรื่องราวเกิดขึ้นจริง ก็สามารถเป็นเครื่องพิสูจน์กระบวนการยุติธรรมไทยได้อีกทางหนึ่งค่ะ

ฮายไม่ได้ต้องการอภิสิทธิ์
ฮายต้องการเพียงได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน และมาตรฐานเดียวกันค่ะ

โปรแกรมที่เหลือของ “กว่างโซ้งมหาภัย” ในเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเจ มีดังนี้

วันที่ 22 เมษายน 2565
เวลา 21.00 น. วิสเซิล โกเบ พบกับ เชียงราย ยูไนเต็ด

วันที่ 25 เมษายน 2565
เวลา 21.00 น. เชียงราย ยูไนเต็ด พบกับ วิสเซิล โกเบ

วันที่ 28 เมษายน 2565
เวลา 21.00 น. เชียงราย ยูไนเต็ด พบกับ คิตฉี เอสซี

ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐสปอร์ต