นายกรัฐมนตรี ยืนยันไม่ได้บังคับให้ “แรมโบ้” ลาออก แต่เจ้าตัวไม่อยากให้เกิดผลกระทบกับรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี19 เม.ย. 2022 15:10 น. แชร์

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีนายเสกสกล อัตถาวงศ์  อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่งว่าไม่กระทบกับการแก้ปัญหาราคาสลากฯแพง เพราะไม่ได้มีนายเสกสกล เป็นคณะทำงานเพียงคนเดียว เพราะเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการ โดยมีนายอนุชา นาคาศัยเป็นประธานคณะกรรมการชุดใหญ่ ซึ่งไม่ได้มีเพียงฝ่ายการเมือง แค่ยังมีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองสลาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายกรัฐมนตรี ยืนยันไม่ได้บังคับให้ “แรมโบ้” ลาออก แต่เจ้าตัวไม่อยากให้เกิดผลกระทบกับรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี19 เม.ย. 2022 15:10 น. แชร์

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีนายเสกสกล อัตถาวงศ์  อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่งว่าไม่กระทบกับการแก้ปัญหาราคาสลากฯแพง เพราะไม่ได้มีนายเสกสกล เป็นคณะทำงานเพียงคนเดียว เพราะเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการ โดยมีนายอนุชา นาคาศัยเป็นประธานคณะกรรมการชุดใหญ่ ซึ่งไม่ได้มีเพียงฝ่ายการเมือง แค่ยังมีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองสลาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ซึ่งคณะทำงานตรวจสอบต้นตอปัญหาสลากฯแพงไปแล้วว่ามีปัญหาตรงไหน อย่างไร ซึ่งนายเสกสกล ได้รายงานสรุปการทำงานมาแล้ว พบมีหลายประเด็นที่ทำให้สลากฯแพง ทั้งในเรื่องโควต้าล็อตเตอรี่ไปยังผู้ประกอบการรายย่อยและแจกจ่ายไปยังสมาคมต่าง ๆ 31 ล้านฉบับ ซึ่งจากการตรวจสอบมีการนำไปรวมเล่ม ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่าใช้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ตัวจริงหรือไม่

ยืนยันไม่ได้บังคับให้นายเสกสกล ลาออก แต่เจ้าตัวรู้ว่ามีปัญหาไม่อยากให้ตนซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีเดือดร้อน จึงมาขอลาออกเองเพื่อไปแก้ปัญหา ในคณะกรรมาธิการให้เรียบร้อย ซึ่งนายเสกสกลยืนยันว่าจะทำอย่างเต็มที่ และไม่อยากให้นายกรัฐมนตรีเสียหาย ส่วนอนาคตทางการเมืองของนายเสกสกล เจ้าตัวยังไม่ได้คุยกัน แต่บอกว่าเป็นเรื่องของวันหน้า วันนี้ถือว่าทำงานที่รับผิดชอบสำเร็จในขั้นต้น เมื่อเกิดปัญหาก็ขอเวลาไปแก้ไข

ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการลาออกของนายเสกสกลจะกระทบการตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ เพราะนายเสกสกลเป็นผู้ก่อตั้งพรรค นายกรัฐมนตรีไม่ตอบในประเด็นนี้ แต่มองผู้สื่อข่าวที่ถามและเมินไปอีกทางหนึ่ง

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการที่พรรคร่วมรัฐบาล มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ว่า เป็นเรื่องแต่ละพรรค ที่หัวหน้าพรรคจะต้องไปแก้ไขปัญหา ซึ่งตนได้ให้กำลังใจทุกพรรค ส่วนตำแหน่งประธานคณะกรรมการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ และคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์สถานภาพสตรีแห่งชาติ ที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้ลาออกนั้น จะให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ดูแลต่อ

เมื่อถามว่าให้กำลังใจทุกพรรครวมถึงพรรคพลังประชารัฐด้วยหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ตอบว่าก็ต้องให้สิ เข้าใจคำว่าทุกพรรคหรือไม่ ทุกพรรคไม่มีพลังประชารัฐงั้นหรือ เขาเป็นคนเสนอตนเป็นนายกฯ ด้วยไม่ใช่หรือ ตนก็ให้กำลังใจเขา ให้กำลังใจท่านหัวหน้าพรรค และให้ทุกคน ช่วยกันทำความดีกันต่อไป

เมื่อถามว่าเมื่อเปิดสภามาแล้วรัฐบาลมีวาระอะไรที่จะต้องเร่งผลักดันหรือไม่ พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า ที่เร่งขับเคลื่อนในตอนนี้คือกฎหมาย วันนี้ผ่านไปแล้ว 20 กว่าฉบับ และยังค้างอยู่อีก 20 กว่าฉบับ ถ้ารวมกันในสมัยรัฐบาลนี้ รวมๆแล้วประมาณ 100 กว่าฉบับ เป็นทั้งกฎหมายใหม่ กฎหมายที่อำนวยความสะดวก รวมถึงกฎหมายที่ไม่เคยมีอยู่ก็ไปมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการประเมินสถานการณ์ในสภาหลังจากนี้ไว้อย่างไร พลเอกประยุทธ์ตอบว่า ก็ไม่มีอะไรตนว่าไม่มีอะไร แต่คิดว่าทุกคนก็ต้องรักประเทศ ตอนนี้คือประเทศของเรา เกิดมาที่นี่หากินที่นี่เจริญเติบโตที่นี่ ถ้าเราไม่ช่วยกันรักษาประเทศชาติจะไปกันได้อย่างไรจะอยู่กันได้อย่างไร ถ้าสมมุติว่าขัดแย้งกันสูงขึ้น วันหน้าจะอยู่กันอย่างไร จะประคับประคองให้อยู่กันแบบนี้ได้หรือไม่ ตนก็เป็นห่วงถ้าขัดแย้งกันมากขึ้นไปเรื่อยๆ มันไม่เหมาะสมและไม่ใช่เวลานี้ด้วย รวมถึงเวลาต่อๆไปก็ไม่ควร อนาคตเราจะต้องอยู่ด้วยความรักความสามัคคีความเข้าใจ มีหนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน และก็ช่วยกันแก้ปัญหาเท่านั้น ตนไม่ใช่ศัตรูคู่แค้นกับใครทั้งสิ้น ขอให้ทุกคนช่วยกัน ปีใหม่ไทยแล้ว ก็ขอให้เป็นการเริ่มต้นใหม่ก็แล้วกัน อย่าให้มันขัดแย้งกันมากกว่านี้เลย มันแก้ปัญหายาก ขึ้นเรื่อยๆ

ขณะที่ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าผู้สื่อข่าวถามถึงพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางไปต่างประเทศ พลเอกประยุทธ์หันมาตอบว่า ไม่ได้ไปพักผ่อนแต่ไปทำงาน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าไปพบใคร พล.อ.ประยุทธ์ ตอบสวนกลับมา นี่ถามอะไรแปลกๆ บ้าหรือเปล่า ถามไม่เคยสร้างสรรค์เลย

ที่มา one31