มืออาชีพ เขาไม่ทำให้ต้องตกเป็นเป้าวิจารณ์อย่างอื้ออึง
กับโปรแกรมฟาดแข้งฟุตบอล “ไทยแลนด์ อเมเจอร์ ลีก 2022” ที่เว้นวรรคการแข่งขันจากพิษโควิดมาถึง 2 ปีเต็ม
แต่การคัมแบ็กเที่ยวนี้ ที่มีทีมสโมสรทั่วฟ้าเมืองไทยแห่สมัครกันอย่างล้นหลาม
เพราะเชื่อในมาตรฐานฝ่ายจัดของทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ว่าจะต้องทำออกมาได้ดีแน่ๆ
หลังได้รับการอวดอ้างสรรพคุณ ว่าพวกเขาบริหารงานตามโมเดลของทาง ฟีฟ่า และ เอเอฟซี เป๊ะๆ มาโดยตลอด
แต่ในความเป็นจริง..ของฟุตบอลลีกสมัครเล่น TA Thailand Amateur League ที่กำลังจะกลับมาอีกครั้ง เป็นอย่างไรนั้น
ลองมาฟังฟีดแบ็กจากสื่อลูกหนังมือเก๋า ที่โพสต์ถึงบอลรายการนี้ ว่าเขาคิดกันอย่างไร?
เผื่อจะเป็นกระจกสะท้อนการทำงานของพวกท่านกันได้บ้าง..ไม่มากก็น้อย
เริ่มจาก “พี่อ๋อวังโอ่ง” คมกฤช นภาลัย ที่โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว Komkrit Napalai แบบสั้นๆ แต่ได้ใจความว่า…
…ค่าสมัครก็ไม่ใช่ถูกๆ แถมให้สมัครเป็นสโมสรสมาชิก เพื่อให้ถูกต้อง
แต่ไฉนฝ่ายจัดการแข่งขันลีกสมัครเล่นของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จึงทำงานชุ่ยจัง
แม้จะเป็นระดับสมัครเล่น แต่มันควรมีมาตรฐานให้สมกับที่ดำเนินการจัดการแข่งขันโดยองค์กรที่ดูแลฟุตบอลของชาติ
จัดให้ทีมเตะ 3 วันรวด
ไม่ต้องพักระหว่างแมตช์ ไม่น้อยกว่า 24 ชม.
แบบนี้มืออาชีพเขาไม่ทำ
มีแต่พวกมือต่ำชั้น..ที่อวดอ้างว่าตนมืออาชีพทำ…
เช่นเดียวกับ “พี่แป้น แป๊ะยิ้ม” วัชเรนทร์ ผาสุข อดีตเหยี่ยวข่าวฟุตบอลสยาม
ก็ให้ทรรศนะถึงไทยแลนด์ อเมเจอร์ ลีก ไว้ยาวหน่อย แต่เต็มไปด้วยสาระล้วนๆ ดังนี้…
… ไม่ได้ว่าใคร เขียนขึ้นด้วยความสงสัยเพราะอยู่ในวงการฟุตบอลไทยมาไม่น้อยกว่า 40ปี ทั้งลงเล่นเอง ทำข่าวฟุตบอลรายการต่างๆ ในเมืองไทยมามากกว่า 30 ปี
จึงเกิดความสงสัยในจิตใจถึงโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลที 5 ในฤดูกาลนี้ ที่ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จัดโปรแกรมการแข่งขันแบบโหดเหี้ยมทารุณ
ไม่จัดแข่งตามระเบียบการแข่งขันที่ฟีฟ่าวางเอาไว้ และไม่คำนึงถึงทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน ที่บางทีมต้องลงทุนในการทำทีมด้วยเงินก้อนโต
โดยโปรแกรมการแข่งขันบางสาย เร่งเหมือนอยากให้มันจบลงไปเร็วๆ อย่างกับนักเตะบางทีมต้องติดทีมชาติไทยไปแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์
จึงอยากจะให้ท่านประธานจัดการแข่งขันฟุตบอลที 5 (ไม่รู้ว่าเป็นใคร) รวมทั้งคนจัดโปรแกรมแข่งขันมึงเคยเล่นฟุตบอลถ้วยกันมารึเปล่า
เพราะบางสายเตะแบบติดต่อกัน 2 วัน พัก 1 วันเตะต่อจนจบรอบแรก แบบรวดเร็วเหมือนจัดแบบขอไปที สโมสรไหนเดือดร้อนกูไม่สนใจ
และไม่รู้ว่าได้ดูโปรแกรมที่จัดไปรึเปล่าว่าบางสายเตะกันถี่ยิบ ทั้งๆ ที่มีทีมสมัครเข้าแข่งขัน 200 กว่าทีมเท่านั้น
ทำให้นึกถึงยุคสมัยที่ คุณวรวรีย์ มะกูดี เป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มี “บิ๊กอ้วน”ประสาทศิลป์ เหรียญศิริ เป็นฝ่ายจัดโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน
แต่ละถ้วยมีทีมสมัครเข้าแข่งขันเป็นร้อยทีม โดยเฉพาะถ้วย ง.มีทีมสมัครไม่น้อยกว่า 200 ทีม
โปรแกรมการแข่งขันที่จัดขึ้นมาเนียนแบบไร้ที่ติ ทุกทีมรับได้ ไม่เหมือนโปรแกรมที 5 ในครั้งนี้ จัดเสร็จมีแต่เสียงสรรเสริญบุพาการีคนจัดโปรแกรม
อยากจะบอกว่าถ้าจัดไม่เป็น ว่างๆ เดินทางไปหา “บิ๊กอ้วน” ที่ชลบุรี
ไปศึกษาวิธีการจัดโปรแกรมฟุตบอล สมองจะได้ปลอดโปร่งมากกว่านี้
ที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาบอกจากใจจริงว่า…ไม่อยากว่าใคร แต่มันรับไม่ได้จริงๆ
ถ้ามันเป็นการกล่าวหาก็อยากให้ท่านนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯลองไปดูโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลที 5 ดู
เพราะจัดเหมือนโปรแกรมเตะฟุตบอลกีฬาแห่งชาติ ที่ต้องเร่งจัดเนื่องจากมีเวลาน้อยในการจัดการแข่งขัน
นอกจากนั้นยังอยากจะวอนไปถึงบางสโมสร ที่ใช้นักเตะเก๋ามากประสบการณ์ลงเล่นเวลาเจอพวกน้องๆ อายุน้อยๆ เบาได้ก็ควรเบา
เพราะเยาวชนส่วนใหญ่ที่ลงเล่นในที 5 จะเป็นพวกที่มาจากเวทีฟุตบอลนักเรียนเป็นส่วนใหญ่
เวทีที่ 5 มันเหมือนกับเป็นสังเวียนให้เยาวชนดาวรุ่งสาวเลือดใหม่ได้หาประสบการณ์ในเกมการแข่งขัน
อย่าเตะกันแบบต้องหามส่งโรงพยาบาลเลยนะครับและเชื่อว่าหลายสนามต้องแบบนี้แน่นอน
และเมื่อนักเตะเก๋าเจอกับวัยรุ่น คนเก๋าหลอกได้ แต่ถ้าโดนเด็กหลอกของจะขึ้นจนมีเรื่องมีราว
ก็ฝากไปถึงเจ้าของสนามรวมทั้งฝ่ายจัดของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เรื่องรถพยาบาล รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีทุกสนาม
เพื่อความไม่ประมาทกันไว้ดีกว่าแก้
แย่แล้วจะแก้ไม่ทันนะครับ…
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยรัฐสปอร์ต